“ความปลอดภัย”ควรเป็นพื้นฐานของการประกอบกิจการเดินรถโดยสารสาธารณะ เพราะ “ผู้บริโภค”ไม่มีโอกาสเลือกรถและคนขับ แต่ต้นทุนและราคาค่าโดยสารยังเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการ “ต่อรองได้” ทีดีอาร์ไอเสนอสร้างต้นแบบ “เขตการคมนาคมปลอดภัย” ถนนดี ขับขี่ปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย ลงทุนในคนรณรงค์ปรับพฤติกรรมใช้รถใช้ถนน ใช้เงินน้อยประโยชน์คุ้มค่า แนะชวนเมืองท่องเที่ยวทำเป็นตัวอย่าง จูงใจนักท่องเที่ยวประโยชน์คุ้มในยุคเสรีอาเซียน
ดร.ณรงค์ ป้อมหลักทอง ผู้อำนวยการวิจัยด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวทางการสร้างความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนที่น่าจะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ควรอยู่ที่การให้ความรู้สร้างพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างมีวินัย ไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่น เป็นการลงทุนน้อยและคุ้มค่ากว่าการเร่งสร้างหรือตัดถนนใหม่หรือขยายถนนรองรับปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ การสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนจึงต้องมองอย่างเป็นระบบ มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด
การตรวจสภาพรถที่เป็นอยู่ไม่ได้สะท้อนเรื่องความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน ซึ่งต่อไปเมื่อมีการเปิดเสรีอาเซียน ปัญหานี้จะไม่ใช่แค่คนไทยเสี่ยงกันเองภายในประเทศ เพราะจะมีการนำรถข้ามแดนเข้ามามากขึ้น ความปลอดภัยคมนาคมทางถนนจึงสำคัญ การนำมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน หรือISO39001 ซึ่งว่าด้วยการบริหารจัดการความปลอดภัยคมนาคมมาใช้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยโดยเฉพาะด้านการค้า บริการ การท่องเที่ยว และหากไทยดำเนินการจนได้มาตรฐานในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ก็สามารถจูงใจด้านการท่องเที่ยวได้ ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานอะไรเลย มีเพียงนำมาตรฐานบางข้อมาปฏิบัติ และยังทำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก มีข้อจำกัดเรื่องกำลังคนและงบประมาณ จึงล่าช้าและไม่สามารถออกกติกาหรือรับมาตรฐานสากลมาปฏิบัติได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากรัฐจริงใจและคำนึงถึงความปลอดภัยต้องไม่กำกับดูแลเฉพาะเรื่องค่าโดยสาร แต่ต้องดูเรื่องความปลอดภัยของการโดยสารด้วยโดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ
ดร.ณรงค์ กล่าวว่า ความปลอดภัยทางถนนไม่ใช่แค่มีถนนดีแต่ยังต้องประกอบด้วยมาตรฐานตัวรถ และพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน โดยในส่วนของมาตรฐานตัวรถ ที่เป็นปัญหาคือรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถโดยสารขนาดใหญ่ ที่ในการผลิตยังไม่มีการทดสอบมาตรฐานที่ชัดเจน ปัจจุบันมีการศึกษาและพัฒนาต้นแบบอุปกรณ์ในการทดสอบมาตรฐาน แต่ยังขาดความพร้อมที่จะนำมาใช้อย่างกว้างขวาง และยังต้องอาศัยการจัดเก็บสถิติข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการทดสอบ เช่น กรณีการพลิกคว่ำ ซึ่งลักษณะการเกิดอุบัติเหตุถนนในเมืองไทยเกี่ยวข้องพฤติกรรมคนขับ ลักษณะภูมิประเทศ จุดความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่การทำอย่างนี้มีต้นทุนสูง ประกอบกับการกำกับดูแลไม่เข้มงวดไม่บังคับให้ทำ บริษัทรถจึงไม่ลงทุน บริษัทที่ทำก็จะมีต้นทุนแพง มีผลต่อราคาขายรถทำให้แข่งขันสู้รายอื่นไม่ได้ นอกจากนี้เพื่อประหยัดต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะมีการนำรถเก่ามาดัดแปลงและนำไปขออนุญาตประกอบการ เราจึงยังเห็นรถโดยสารขนาดใหญ่ที่สภาพตัวรถเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยออกมาวิ่งให้บริการอยู่ หากดูตัวอย่างประเทศสิงคโปร์จะเห็นว่ากำหนดรถโดยสารสาธารณะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 17 ปี เป็นต้น
แม้มาตรฐานตัวรถเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรทำ แต่ปัญหาคือใช้การลงทุนสูง และก็ยังต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมคนใช้รถใช้ถนน จึงขอเสนอให้นำเรื่อง ISO39001 ที่ว่าด้วยความปลอดภัยคมนาคมมาใช้ให้เกิดขึ้นได้จริงจะช่วยประหยัดงบประมาณเพราะเป็นการลงทุนในตัวคน ให้ความรู้ ให้เกิดพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยจะให้ผลคุ้มค่ากว่า ขณะเดียวกันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานก็ยังคงทำต่อไปในเรื่อง สร้าง ซ่อม ดูแล ซึ่งล้วนเป็นโครงการใช้งบประมาณจำนวนมากและภาคการเมืองนิยมทำกันมาตลอด ในมุมกลับหากสามารถนำ ISO39001 มาใช้ซึ่งเป็นการทำเรื่องกฎกติกา การบังคับใช้ ให้เกิดการแข่งกันในเชิงคุณภาพ มีการตรวจสอบ สร้างแรงจูงใจด้วยการให้รางวัลสำหรับพื้นที่ที่ทำได้มาตรฐาน พื้นที่นั้นยังผลักดันต่อในเรื่องการท่องเที่ยวได้ด้วย ที่สำคัญการลงทุนน้อยกว่ามาก และให้ผลที่ยั่งยืน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเห็นความสำคัญในเรื่องใดก่อนหลัง
“เขตการคมนาคมปลอดภัยต้องทำเป็นตัวอย่างให้คนเอาเยี่ยงอย่าง โดยเริ่มจากเมืองที่มีเศรษฐกิจดีจากการท่องเที่ยว มีศักยภาพในการลงทุน และได้ประโยชน์โดยตรง เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา ฯลฯ ซึ่งการนำ ISO39001 มาใช้เป็นการการันตีว่าภายในเมืองนี้หรือเขตพื้นที่นี้จะพบกับการเดินทางสะดวก ถนนดี ปลอดภัย ก็ถือเป็นจุดขายของการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวย่อมต้องการไปเที่ยวในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยและสะดวก ตัวอย่างเช่น ในประเทศเนเธอร์แลนด์ก็มีการนำ ISO39001 มาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว”
การเกิดอุบัติเหตุมาจากองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ พฤติกรรมสภาวะคนขับ ยานพาหนะ ถนนและไฟส่องสว่าง และมีตัวแปรที่ทำให้เลวร้ายลงคือสภาพภูมิอากาศ หากอันใดอันหนึ่งบกพร่องก็มีผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ฉะนั้นการแก้ปัญหาจึงต้องมองในภาพรวมและต้องไม่ไปลงทุนด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป ต้องแก้ด้วยพฤติกรรมคนก่อนจึงจะคุ้มค่า หน่วยงานที่ควรร่วมกันทำเรื่องนี้ คือ กรมการขนส่งทางบก สมาคมผู้ประกอบการ สมาคมธนาคาร และ โดยเฉพาะกับ อบต.,อบจ.ที่ต้องการผลักดันให้ท้องถิ่นของตัวเองเป็นท้องถิ่นตัวอย่างมาทำเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง กำหนดให้เป็นเขตการคมนาคมปลอดภัยพิเศษ และยังเป็นการทำตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งความปลอดภัย
ดร.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า การสร้างความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ ต้องมีการพัฒนาสร้างโครงข่ายบริการสาธารณะที่สามารถเข้าถึงประชาชนในตรอกซอกซอยให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่ เพราะการไม่มีระบบขนส่งสาธารณะเข้าไปถึงทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้คน และเนื่องจากมีปัญหาความไม่คุ้มทุนเอกชนจึงไม่ทำ ดังนั้นในระยะแรกหากจะต้องไปนำคนออกจากบ้านเพื่อมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะหลักที่มีอยู่ โดยอาจใช้วิธีจ้างเอกชนดำเนินการ ให้บริการฟรี ซึ่งทำไประยะหนึ่งจะเกิดผลว่าเขามีความสะดวกในการเดินทางออกจากบ้านมาสู่ระบบขนส่งสาธารณะ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุน้อยลง การสูญเสียทรัพยากรมนุษย์น้อยลง ประชาชนเกิดความมั่นใจการเดินทางสะดวก ก็จะซื้อรถส่วนตัวน้อยลง หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ในที่สุดผู้ประกอบการที่จ้างวิ่งในระยะแรกเมื่อมีความคุ้มทุนจากที่คนหันมาใช้บริการมากขึ้นก็จะเข้ามาขอดำเนินการ รับความเสี่ยง กำไร ขาดทุนเอง และเป็นระบบที่ควบคุมได้
นอกจากนี้การพัฒนาสร้างความปลอดภัยคมนาคมทางถนนยังเพิ่มโอกาสให้กับประเทศที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีอาเซียน ทั้งจากการเดินทางท่องเที่ยวและการค้า การปรับปรุงดังกล่าวจะช่วยให้คว้าโอกาสนี้ไว้ได้.