เสนอสร้างมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน

ปี2012-05-24

“ความปลอดภัย”ควรเป็นพื้นฐานของการประกอบกิจการเดินรถโดยสารสาธารณะ เพราะ “ผู้บริโภค”ไม่มีโอกาสเลือกรถและคนขับ แต่ต้นทุนและราคาค่าโดยสารยังเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการ “ต่อรองได้” ทีดีอาร์ไอเสนอสร้างต้นแบบ “เขตการคมนาคมปลอดภัย” ถนนดี ขับขี่ปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุและความสูญเสีย  ลงทุนในคนรณรงค์ปรับพฤติกรรมใช้รถใช้ถนน ใช้เงินน้อยประโยชน์คุ้มค่า แนะชวนเมืองท่องเที่ยวทำเป็นตัวอย่าง จูงใจนักท่องเที่ยวประโยชน์คุ้มในยุคเสรีอาเซียน

ดร.ณรงค์ ป้อมหลักทอง  ผู้อำนวยการวิจัยด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวทางการสร้างความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนที่น่าจะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ควรอยู่ที่การให้ความรู้สร้างพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างมีวินัย ไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อผู้อื่น  เป็นการลงทุนน้อยและคุ้มค่ากว่าการเร่งสร้างหรือตัดถนนใหม่หรือขยายถนนรองรับปริมาณรถที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ   การสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนจึงต้องมองอย่างเป็นระบบ  มีการกำกับดูแลที่เข้มงวด

การตรวจสภาพรถที่เป็นอยู่ไม่ได้สะท้อนเรื่องความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนน ซึ่งต่อไปเมื่อมีการเปิดเสรีอาเซียน ปัญหานี้จะไม่ใช่แค่คนไทยเสี่ยงกันเองภายในประเทศ  เพราะจะมีการนำรถข้ามแดนเข้ามามากขึ้น ความปลอดภัยคมนาคมทางถนนจึงสำคัญ  การนำมาตรฐานความปลอดภัยทางถนน หรือISO39001 ซึ่งว่าด้วยการบริหารจัดการความปลอดภัยคมนาคมมาใช้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยโดยเฉพาะด้านการค้า บริการ  การท่องเที่ยว และหากไทยดำเนินการจนได้มาตรฐานในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง  ก็สามารถจูงใจด้านการท่องเที่ยวได้  ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานอะไรเลย มีเพียงนำมาตรฐานบางข้อมาปฏิบัติ และยังทำได้ไม่เต็มที่  เนื่องจากกรมการขนส่งทางบก มีข้อจำกัดเรื่องกำลังคนและงบประมาณ  จึงล่าช้าและไม่สามารถออกกติกาหรือรับมาตรฐานสากลมาปฏิบัติได้ทั้งหมด  อย่างไรก็ตามหากรัฐจริงใจและคำนึงถึงความปลอดภัยต้องไม่กำกับดูแลเฉพาะเรื่องค่าโดยสาร แต่ต้องดูเรื่องความปลอดภัยของการโดยสารด้วยโดยเฉพาะรถโดยสารสาธารณะ

ดร.ณรงค์ กล่าวว่า ความปลอดภัยทางถนนไม่ใช่แค่มีถนนดีแต่ยังต้องประกอบด้วยมาตรฐานตัวรถ และพฤติกรรมของคนใช้รถใช้ถนน โดยในส่วนของมาตรฐานตัวรถ ที่เป็นปัญหาคือรถโดยสารสาธารณะ  โดยเฉพาะรถโดยสารขนาดใหญ่ ที่ในการผลิตยังไม่มีการทดสอบมาตรฐานที่ชัดเจน  ปัจจุบันมีการศึกษาและพัฒนาต้นแบบอุปกรณ์ในการทดสอบมาตรฐาน แต่ยังขาดความพร้อมที่จะนำมาใช้อย่างกว้างขวาง  และยังต้องอาศัยการจัดเก็บสถิติข้อมูลอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการทดสอบ เช่น กรณีการพลิกคว่ำ ซึ่งลักษณะการเกิดอุบัติเหตุถนนในเมืองไทยเกี่ยวข้องพฤติกรรมคนขับ ลักษณะภูมิประเทศ จุดความเสียหายที่เกิดขึ้น  แต่การทำอย่างนี้มีต้นทุนสูง ประกอบกับการกำกับดูแลไม่เข้มงวดไม่บังคับให้ทำ  บริษัทรถจึงไม่ลงทุน บริษัทที่ทำก็จะมีต้นทุนแพง มีผลต่อราคาขายรถทำให้แข่งขันสู้รายอื่นไม่ได้  นอกจากนี้เพื่อประหยัดต้นทุนสำหรับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะมีการนำรถเก่ามาดัดแปลงและนำไปขออนุญาตประกอบการ  เราจึงยังเห็นรถโดยสารขนาดใหญ่ที่สภาพตัวรถเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยออกมาวิ่งให้บริการอยู่  หากดูตัวอย่างประเทศสิงคโปร์จะเห็นว่ากำหนดรถโดยสารสาธารณะต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 17 ปี  เป็นต้น

แม้มาตรฐานตัวรถเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรทำ แต่ปัญหาคือใช้การลงทุนสูง และก็ยังต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมคนใช้รถใช้ถนน  จึงขอเสนอให้นำเรื่อง ISO39001 ที่ว่าด้วยความปลอดภัยคมนาคมมาใช้ให้เกิดขึ้นได้จริงจะช่วยประหยัดงบประมาณเพราะเป็นการลงทุนในตัวคน ให้ความรู้ ให้เกิดพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยจะให้ผลคุ้มค่ากว่า ขณะเดียวกันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานก็ยังคงทำต่อไปในเรื่อง สร้าง ซ่อม ดูแล ซึ่งล้วนเป็นโครงการใช้งบประมาณจำนวนมากและภาคการเมืองนิยมทำกันมาตลอด  ในมุมกลับหากสามารถนำ ISO39001 มาใช้ซึ่งเป็นการทำเรื่องกฎกติกา การบังคับใช้  ให้เกิดการแข่งกันในเชิงคุณภาพ  มีการตรวจสอบ สร้างแรงจูงใจด้วยการให้รางวัลสำหรับพื้นที่ที่ทำได้มาตรฐาน   พื้นที่นั้นยังผลักดันต่อในเรื่องการท่องเที่ยวได้ด้วย  ที่สำคัญการลงทุนน้อยกว่ามาก และให้ผลที่ยั่งยืน   ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะเห็นความสำคัญในเรื่องใดก่อนหลัง

“เขตการคมนาคมปลอดภัยต้องทำเป็นตัวอย่างให้คนเอาเยี่ยงอย่าง  โดยเริ่มจากเมืองที่มีเศรษฐกิจดีจากการท่องเที่ยว  มีศักยภาพในการลงทุน  และได้ประโยชน์โดยตรง เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา ฯลฯ  ซึ่งการนำ ISO39001 มาใช้เป็นการการันตีว่าภายในเมืองนี้หรือเขตพื้นที่นี้จะพบกับการเดินทางสะดวก ถนนดี ปลอดภัย ก็ถือเป็นจุดขายของการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวย่อมต้องการไปเที่ยวในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยและสะดวก  ตัวอย่างเช่น ในประเทศเนเธอร์แลนด์ก็มีการนำ ISO39001 มาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว”

การเกิดอุบัติเหตุมาจากองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ พฤติกรรมสภาวะคนขับ ยานพาหนะ ถนนและไฟส่องสว่าง และมีตัวแปรที่ทำให้เลวร้ายลงคือสภาพภูมิอากาศ หากอันใดอันหนึ่งบกพร่องก็มีผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้  ฉะนั้นการแก้ปัญหาจึงต้องมองในภาพรวมและต้องไม่ไปลงทุนด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป  ต้องแก้ด้วยพฤติกรรมคนก่อนจึงจะคุ้มค่า  หน่วยงานที่ควรร่วมกันทำเรื่องนี้ คือ กรมการขนส่งทางบก  สมาคมผู้ประกอบการ  สมาคมธนาคาร และ โดยเฉพาะกับ อบต.,อบจ.ที่ต้องการผลักดันให้ท้องถิ่นของตัวเองเป็นท้องถิ่นตัวอย่างมาทำเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง กำหนดให้เป็นเขตการคมนาคมปลอดภัยพิเศษ  และยังเป็นการทำตามที่รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งความปลอดภัย

ดร.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า การสร้างความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ ต้องมีการพัฒนาสร้างโครงข่ายบริการสาธารณะที่สามารถเข้าถึงประชาชนในตรอกซอกซอยให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะในกรุงเทพหรือเมืองใหญ่  เพราะการไม่มีระบบขนส่งสาธารณะเข้าไปถึงทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในการเดินทางและเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้คน และเนื่องจากมีปัญหาความไม่คุ้มทุนเอกชนจึงไม่ทำ ดังนั้นในระยะแรกหากจะต้องไปนำคนออกจากบ้านเพื่อมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะหลักที่มีอยู่ โดยอาจใช้วิธีจ้างเอกชนดำเนินการ ให้บริการฟรี  ซึ่งทำไประยะหนึ่งจะเกิดผลว่าเขามีความสะดวกในการเดินทางออกจากบ้านมาสู่ระบบขนส่งสาธารณะ ก็จะช่วยลดอุบัติเหตุน้อยลง การสูญเสียทรัพยากรมนุษย์น้อยลง  ประชาชนเกิดความมั่นใจการเดินทางสะดวก ก็จะซื้อรถส่วนตัวน้อยลง หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ในที่สุดผู้ประกอบการที่จ้างวิ่งในระยะแรกเมื่อมีความคุ้มทุนจากที่คนหันมาใช้บริการมากขึ้นก็จะเข้ามาขอดำเนินการ รับความเสี่ยง กำไร ขาดทุนเอง  และเป็นระบบที่ควบคุมได้

นอกจากนี้การพัฒนาสร้างความปลอดภัยคมนาคมทางถนนยังเพิ่มโอกาสให้กับประเทศที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเสรีอาเซียน ทั้งจากการเดินทางท่องเที่ยวและการค้า การปรับปรุงดังกล่าวจะช่วยให้คว้าโอกาสนี้ไว้ได้.