แม้ปี 2556 นี้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะประกาศให้เป็นปีทองของการคุ้มครองผู้บริโภค แต่การดำเนินงานช่วง 3 เดือนที่ผ่านมากลับสอบตก!
นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ “2556 ปีทองการคุ้มครองผู้บริโภค และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอล” ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ว่า กระบวนการรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคของสำนักงาน กสทช. วันนี้ยังมีขั้นตอนที่มากทำให้ใช้เวลาการพิจารณาในเรื่องที่ได้รับร้องเรียนนาน ดังนั้นต้องจัดการให้ระเบียบการร้องเรียนมีกระบวนการที่ สั้นลง
“วันนี้มีคนที่พยายามทำให้กระบวนการร้องเรียนของผู้บริโภคมีกระบวนการและขั้นตอนที่ยาว ทำให้ใช้เวลานาน กว่าเรื่องจะได้รับการพิจารณา ดังนั้นเบื้องต้นสิ่งที่ทำได้ตนอาจไปนั่งดูเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามาด้วยตนเอง และนำเรื่องเสนอเป็นวาระเพื่อเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ดกสทช. นอกจากนี้ผู้บริโภคที่ร้องเรียนเข้ามาหากยังไม่ได้รับคำตอบของเรื่องที่ร้องเรียนภายใน 30 วัน ก็มีสิทธิร้องเรียนให้สำนักงาน กสทช.จ่ายเงินค่าเสียหายให้ได้ เนื่องจากตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ พ.ศ. 2553 กำหนดให้การพิจารณาเรื่องที่ได้รับร้องเรียนใช้เวลา 30 วัน หากเกินกว่านั้นผู้บริโภคสามารถร้องเรียนให้สำนักงาน กสทช.จ่ายค่าเสียหายให้ได้”
ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ อนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการโทรคมนาคม เปิดเผยระหว่างเสวนาว่า การคุ้มครองผู้บริโภคของสำนักงาน กสทช.ที่ผ่านมาถือว่าล้มเหลว เนื่องจากมีขั้นตอนและกระบวนการร้องเรียนที่ค่อนข้างยุ่งยากและใช้เอกสารมาก รวมทั้งไม่มีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมโต้ตอบเรื่องที่ได้รับร้องเรียน ส่งผลให้ระยะเวลาการพิจารณาเรื่องร้องเรียนใช้เวลานานและไม่มีกำหนดดังนั้นต้องผลักดันให้การพิจารณาเรื่องที่ได้รับร้องเรียนดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และกำหนดระยะเวลาให้ผู้ประกอบการที่ถูกร้องเรียนโต้ตอบกลับมาภายใน 15 วันหลังได้รับเอกสารจากสำนักงาน กสทช. หากผู้ประกอบการไม่โต้ตอบตามระยะเวลาที่กำหนดให้ถือว่าผู้บริโภคที่ร้องเรียนเป็นฝ่ายถูก
“งบประมาณของการดำเนินงานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในปี 2555 ของสำนักงาน กสทช. อยู่ที่ 60 ล้านบาท แต่มีการใช้เงินในการดำเนินงานไปเพียง 15 ล้านบาท โดยงบที่เหลือส่งกลับคืนให้สำนักงาน กสทช. ซึ่งมีเรื่องที่ได้รับร้องเรียนเข้ามามากถึง 5,000 เรื่อง แต่ไม่สามารถดำเนินงานได้หมด ซึ่งมีการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันได้ เพียง 16% โดยช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาของปี 2556 มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้วกว่า 1,000 เรื่อง”
ดร.เดือนเด่น กล่าวว่า สิ่งที่อยากแนะนำ กสทช. คือ ทำให้ขั้นตอนและกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนสั้นลง เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้รวดเร็ว เนื่องจากปัจจุบันมีขั้นตอนในการดำเนินงานที่เยอะมาก และการที่ กสทช.รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ตนเองอย่างเดียวทำให้ใช้เวลานานมากในการดำเนินงาน ดังนั้นควรกระจายอำนาจไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถตัดสินใจได้เลย
ดังนั้น ช่วงเวลาอีก 9 เดือนที่เหลือ กสทช.ต้องเร่งดำเนินงานเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง เพื่อสมกับที่ประกาศให้เป็นปีทองการคุ้มครองผู้บริโภค.
ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ วันที่ 27 มีนาคม 2556 ในชื่อ กสทช.สอบตก! ปีทองคุ้มครองผู้บริโภค