10 คำถามที่ กทค. ควรตอบต่อสาธารณะ ก่อนฟ้องร้องนักวิชาการและสื่อมวลชน

ปี2013-09-05


สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์

คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.)  มีมติขยายเวลาการใช้คลื่น 1800 MHz ของ True Move และ DPC ออกไป 1 ปี โดยไม่นำคลื่นมาประมูล และได้ฟ้องหมิ่นประมาทนักวิชาการและสื่อมวลชน ที่ตรวจสอบ ทักท้วง หรือรายงานการดำเนินการดังกล่าว   แม้ว่า การฟ้องร้องจะเป็นสิทธิที่ กทค. สามารถทำได้ตามกฎหมาย  ผมเห็นว่า ก่อนจะดำเนินการดังกล่าว กทค. ควรตอบคำถาม 10 ข้อต่อไปนี้ต่อสาธารณะ ซึ่งรวมถึงประชาชนผู้ใช้บริการที่อาจได้รับผลกระทบและประชาชนผู้เสียภาษีเสียก่อน

  1. ตั้งแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2554  ท่านไม่ทราบหรือว่า สัมปทานของ True Move และ DPC จะหมดอายุภายในเดือนกันยายน 2556?
  2. ท่านไม่ทราบหรือว่า แผนแม่บทบริหารคลื่นความถี่ของ กสทช. ที่ท่านมีส่วนร่วมจัดทำออกมาเมื่อเดือนเมษายน 2555 กำหนดให้คืนคลื่นเมื่อสัมปทานหมดอายุ?
  3. ท่านไม่ทราบหรือว่า  กฎหมาย กสทช. ห้ามต่ออายุสัมปทาน และให้จัดสรรคลื่นโทรคมนาคมด้วยการประมูลเท่านั้น?
  4. ท่านไม่ทราบหรือว่า อนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. เคยให้ความเห็นในกรณีที่คล้ายกัน (กรณีคลื่น 800 MHz) ว่า ไม่สามารถขยายเวลาการใช้คลื่นได้ และนักวิชาการด้านกฎหมายจำนวนมากก็แสดงความเห็นในลักษณะเดียวกัน?
  5. ท่านเคยขอความเห็นจากหน่วยงานด้านกฎหมายภายนอก เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา หรือแม้กระทั่งอนุกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กสทช. เอง  ก่อนมีมติต่อเวลาการใช้คลื่นหรือไม่ หรือท่านเข้าใจไปเองว่าสามารถทำได้?
  6. ท่านได้แจ้งให้ผู้ใช้ของ True Move และ DPC ทราบล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ปี 2555 หรือไม่ว่า สัมปทานดังกล่าวจะหมดอายุลง?
  7. ท่านได้ห้าม True Move และ DPC ขายบริการเกินอายุสัมปทาน ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมาหรือไม่?
  8. ท่านได้เร่งดำเนินการให้ผู้ใช้บริการจำนวนมากสามารถโอนย้ายข้ามเครือข่าย (mass number portability) เพื่อลดปัญหาผู้ใช้บริการติดค้างอยู่ในโครงข่ายสัมปทานที่จะหมดอายุหรือไม่?
  9. ท่านได้เร่งจ้างที่ปรึกษาเพื่อตีราคาคลื่นและออกแบบการประมูลคลื่น 1800 MHz หรือไม่ ก่อนที่จะอ้างว่าประมูลคลื่นไม่ทัน?
  10. เวลากว่า 420 วัน นับตั้งแต่ประกาศแผนแม่บทฯ จนถึงวันที่ท่านมีมติขยายเวลาการใช้คลื่น ยังไม่เพียงพออีกหรือในการแก้ปัญหา หากท่านปฏิบัติงานตามหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ?

ในฐานะที่ กทค. เป็นหน่วยงานอิสระของรัฐที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน ผมหวังว่าท่านจะตอบคำถามดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา และจะดีอย่างยิ่งหากท่านเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถซักถามข้อเท็จจริง และให้ข้อคิดเห็นต่อท่านได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะถูกฟ้องร้อง หากความเห็นดังกล่าวไม่เป็นที่ถูกใจท่าน