tdri logo
tdri logo
10 กันยายน 2013
Read in Minutes

Views

“เบญจา” ปัดขึ้นภาษีแบรนด์เนม “ทีดีอาร์ไอ” มองเป็นแนวคิดโบราณ ไม่ได้ดึงนักท่องเที่ยว

“รมช.คลัง” ยืนยันรัฐบาลยังไม่คิดปรับลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยในขณะนี้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ ลั่นการจะปรับลดภาษีตัวใดคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะปัจจุบันก็มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ด้านนักวิชาการ “ทีดีอาร์ไอ” ชี้การลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยถือเป็นเรื่องโบราณ เพราะบางอย่างกลายเป็นของจำเป็นไปแล้ว แถมยังดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยได้ไม่มาก เพราะเขาไม่ได้หวังมาเที่ยวไทยเพื่อชอปของแบรนด์เนม

นางเบญจา หลุยเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังไม่มีนโยบายที่จะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยในทุกรายการสินค้า เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อผู้ประกอบการในประเทศ เพราะในบางรายการผู้ประกอบการในไทยก็สามารถผลิต และส่งออกไปแข่งขันในต่างประเทศได้ เช่น เครื่องหนัง หากปรับลดภาษีแล้วก็จะทำให้ผู้ประกอบการมีปัญหาไปด้วย ดังนั้น การจะปรับลดภาษีในสินค้าใดก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาถึงมูลค่านำเข้า และผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทยด้วย

“การจะปรับลดภาษีตัวใดเราคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะปัจจุบันก็มีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ด้วยการสามารถขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ซึ่งจะต้องขอดูตัวเลขจากกรมสรรพากรก่อนว่า มีนักท่องเที่ยวมาขอคืนแวตจากการซื้อสินค้าในไทยมากน้อยเพียงใด หากมากอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรเพิ่มเติม เพื่อให้กระทบต่อผู้ประกอบการของเราเอง และการออกมาพูดเช่นนี้ก็อาจจะทำให้การสั่งซื้อสินค้าชะงักไปได้ เพราะรอดูความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลก่อน”

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวทางการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยตามนโยบายของรัฐบาล คงจะใช้วิธีการนำร่องปรับลดภาษีนำเข้าในรายการสินค้าที่ผู้ประกอบการในประเทศได้รับผลกระทบน้อยที่สุด หรือไม่ได้รับผลกระทบเลย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่ไม่ได้มีการผลิตในประเทศ เช่น น้ำหอม และนาฬิกา เพื่อประเมินถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับแนวทางดังกล่าว โดยวัตถุประสงค์ของการปรับลดภาษีในรายการสินค้าดังกล่าวก็เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติ

“สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลด้านนโยบาย กระทรวงการคลัง ได้เรียกตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าที่มีระดับราคาสูง หรือสินค้าฟุ่มเฟือยมาหารือถึงแนวทางและผลกระทบกรณีที่รัฐบาลจะปรับลดภาษีนำเข้าสินค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งแน่นอนว่า ผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดจะไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบายนี้ ขณะที่การให้ข้อมูลของกลุ่มผู้ประกอบการ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณานั้นก็ยังไม่มีความครบถ้วน”

ด้านนายวิศาล บุปผเวส นักเศรษฐศาตร์ประจำสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า การลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจะมีผลดึงให้นักท่องเที่ยวใช้เงินมากขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการมาเที่ยวไทยไม่ได้มุ่งมาซื้อของแบรนด์เนม นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวเดินทางผ่านสิงคโปร์ และฮ่องกงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทุกประเทศก็มีร้านค้าปลอดภาษีตามสนามบินซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อสินค้าแบรนด์เนมได้อยู่แล้ว หากอยากจะให้คนมาเที่ยวเมืองไทยมาก รัฐบาลควรจะเน้นความสะดวกสบาย ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และมาเที่ยวแล้วมีความสุข

“แนวคิดเรื่องจัดเก็บภาษีฟุ่มเฟือยเป็นแนวคิดแบบโบราณ เพราะปัจจุบันสินค้าฟุ่มเฟือยบางอย่างก็กลายเป็นสินค้าจำเป็นไปแล้ว นอกจากนี้ สำหรับคนรวยสินค้าเหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นของฟุ่มเฟือยเนื่องจากมีรายได้สูงที่สามารถซื้อหาได้ การเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงเป็นการบิดเบือนกลไกตลาดเสรี ที่ส่งเสริมให้แต่ละประเทศผลิตสินค้าที่ตนมีความชำนาญ หรือผลิตได้ดีกว่าประเทศอื่น การใช้ภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศเป็นการทำให้ระบบเศรษฐกิจใช้ทรัพยากรทางเศรษฐกิจอย่างไม่มีประสิทธิภาพ”


ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 9 กันยายน 2556 ในชื่อ “เบญจา” ปัดขึ้นภาษีแบรนด์เนม “ทีดีอาร์ไอ” มองเป็นแนวคิดโบราณ ไม่ได้ดึงนักท่องเที่ยว

นักวิจัย

แชร์บทความนี้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ดูทั้งหมด