tdri logo
tdri logo
20 ธันวาคม 2013
Read in Minutes

Views

เวที สกว. ชี้ช่องปฏิรูปประเทศ ต้นตอคือคอร์รัปชั่น

เวที สกว. แนะแนวทางปฏิรูปประเทศไทย เปิดผลวิจัยทางเลือกแก้คอร์รัปชันที่ต้นตอ ลดผูกขาด ลดดุลพินิจในการจัดทำใบอนุญาต เปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ชูอินโดนีเซียต้นแบบต้านคอร์รัปชัน ตั้งศาลพิจารณาคดีโดยเฉพาะ 10 ปี 236 คดี จับบิ๊กข้าราชการ นักการเมือง ตำรวจ ร่วม 400 คน

เมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเวทีสาธารณะ สกว. : ความรู้สู่การปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 1 และการนำเสนอทางเลือกใหม่เพื่อการต้านคอร์รัปชัน ใน 4 ทางเลือก จากผลงานวิจัย ได้แก่ 1.การเมือง การปกครอง การปรับโครงสร้างอำนาจ 2.เศรษฐกิจสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม 3.ความร่วมมือในภูมิภาค ไทยกับบทบาทใหม่และ 4.การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่าบูรณาการ

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปัญหาคอร์รัปชันของประเทศกลายเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการเมือง ทำให้คนออกมาชุมนุมเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในขณะที่การปฏิรูปประเทศไทยในหลายเวทีมีจุดร่วมกัน คือการปฏิรูปการได้มาซึ่งอำนาจรัฐ

“ปัจจุบันต้องยอมรับว่าอันดับการคอร์รัปชันของไทยจากการประเมินขององค์กรการโปร่งใสสากล จากอันดับ 88 ตกลงมา 14 อันดับ ลงมาอยู่อันดับที่ 102 เป็นการตกครั้งใหญ่ ต่ำกว่าประเทศในลาตินอเมริกา แย่กว่าประเทศโคลัมเบีย ที่มีมาเฟีย และเศรษฐกิจนอกระบบ จากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2550 ไทยเคยตกจากอันดับ 63 เป็น 84 โดยอันดับดีที่สุดอยู่ที่ 59-60 และอยู่ในช่วงขาลงมาตลอด”

นายสมเกียรติกล่าวว่า คอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญของการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการลงทุนต่ำกว่าที่จำเป็น การจ่ายใต้โต๊ะเป็นอุปสรรคทำให้ไม่เกิดการลงทุน ซึ่งการที่ไทยต้องการลงทุนโครงสร้างขนาดใหญ่ที่จำเป็น เช่น โครงการ 2 ล้านล้าน หรือโครงการน้ำ ที่ยังไม่ทำให้คนไว้วางใจ และเกิดกลไกตรวจสอบการใช้เงิน ทำให้โครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นได้ยาก

“ถ้าประเทศจะหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ต้องมีระดับความโปร่งใสพอ หรือมากกว่า 4 ซึ่งไม่เคยทำได้มาก่อน ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่สามารถนำนักการเมืองที่ถูกตัดสินคอร์รัปชันมาลงโทษได้ โดยใช้วิธีหนีไปต่างประเทศ และรอจนกว่าคดีจะหมดอายุความ เช่น กรณีทุจิตคลองด่าน นายวัฒนา อัศวเหม คดีทุจริตรถดับเพลิง นายประชา มาลีนนท์ และอีกหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร”

ทั้งนี้ การออกแบบประเทศต้องคิดในเชิงระบบ โดยการแก้สมการคอร์รัปชัน คอร์รัปชัน = ดุลพินิจ + ผูกขาด – กลไกความรับผิดชอบ เช่น ความโปร่งใส

นายสมเกียรติกล่าวด้วยว่า การจะแก้คอร์รัปชันได้ต้องแก้ที่ต้นตอ ลดดุลพินิจในการจัดทำใบอนุญาต ลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ ยกเลิกโควตานำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นการแก้ที่ดีกว่าการแก้ที่ปลายเหตุ เช่น โครงการรับจำนำข้าว ควรมีการตั้งคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นองค์การอิสระ

นอกจากนี้ จำเป็นต้องแก้ไขการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ โดยเปิดให้สังคมสามารถตรวจสอบได้ เพราะการปกปิดข้อมูลทำให้เกิดคอร์รัปชันได้อย่างกว้างขวาง โครงการขนาดใหญ่ที่มีการตกลงระดับรัฐบาล ต้องยินยอมให้บุคคลภายนอกเข้าไปสังเกตการณ์ได้ ภายใต้กลไกข้อตกลงคุณธรรมโดยไทยเข้าเป็นสมาชิกองค์การต่อต้านสินบนโออีซีดี ซึ่งมีกลไกตรวจสอบ พร้อมทั้งแก้กฎหมายให้คดีคอร์รัปชันเป็นคดีที่ไม่มีอายุความ เป็นต้น

ด้านนางผาสุก พงษ์ไพจิตร อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่า การคอร์รัปชันมีต้นตอจาก 2 ส่วนคือ คอร์รัปชันจากภาคราชการ ซึ่งเกิดได้ตลอดเวลา และคอร์รัปชันด้านการเมือง ที่เกิดการความร่วมมือระหว่างข้าราชการ นักธุรกิจ และนักการเมือง เป็นโครงการที่มีวงเงินสูง ไม่ผูกขาดกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเสมอไป และไม่ได้เกิดบ่อย

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาบรรยากาศการคอร์รัปชันในภาคราชการของไทยดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบบริหารราชการขององค์กรต่างๆ ต่างจากในอดีตที่การวิจัยพบว่าองค์กรที่พบการทุจริตมากที่สุด ได้แก่ ตำรวจ ที่ดิน สรรพากร และศุลกากร

สำหรับประเทศที่สามารถลดปัญหาคอร์รัปชันได้อย่างน่าสนใจคือ ประเทศอินโดนีเซีย ที่ได้จัดตั้งองค์กรกำจัดคอร์รัปชันเคพีเค ในปี 2005 ช่วยให้อันดับการคอร์รัปชันของประเทศสูงขึ้น 10 ปี มีกรณีสืบสวนสอบสวน 236 คดี โดยทุกคดีชนะ สามารถจับกุมข้าราชการระดับสูง นักการเมือง ตำรวจ เกือบ 400 คน ครึ่งหนึ่งเป็นนักการเมือง โดยมีการตั้งศาลพิจารณาคดีโดยเฉพาะ

ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกว. กล่าวว่า สกว.ได้ให้การสนับสนุนนักวิจัยเพื่อจัดทำซีรีส์ความรู้สู่การปฏิรูปประเทศไทย เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยได้เผชิญวิกฤตการเมือง ซึ่งกระทบต่อภาพรวม

“ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการออกแบบโดยโครงสร้างอำนาจ รัฐธรรมนูญ แก้ปัญหาหนึ่ง แต่ส่งผลให้เกิดปัญหาที่ตามมา รัฐธรรมนูญปี 2540 แก้ปัญหาพรรคการเมืองให้มีอำนาจ แต่หนุนให้เกิดคอร์รัปชันเชิงนโยบาย ทุนนิยมเสรี ทำให้เกิดการขัดแย้งตามมาในภายหลัง ผลข้างเคียง ทำให้ประเทศไทยอ่อนแอ ขีดความสามารถด้านการแข่งขันลดลง”

ทั้งนี้ สกว. ได้ออกแบบระบบโครงสร้างอำนาจ กระจายอำนาจ นำเสนอรัฐบาลใหม่ ใน 4 ประเด็นหลักครอบคลุม 1.การเมือง การปกครอง การปรับโครงสร้างอำนาจ ทางเลือกใหม่เพื่อการต้านคอร์รัปชัน การออกแบบสถาบันการเมืองใหม่ และการกระจายอำนาจ 2.เศรษฐกิจสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม นโยบายในด้านต่างๆ การสร้างการแข่งขันที่เป็นธรรม 3.ความร่วมมือในภูมิภาค ไทยกับบทบาทใหม่ และ 4.การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างบูรณาการ

ผอ.สกว.ทิ้งท้ายว่า ถึงเวลาที่ประเทศจำเป็นต้องออกแบบประเทศใหม่ ตรงกับโครงการวิจัย Redesign Thailand โดย สกว.เตรียมจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ ข้ามเหตุการณ์ความขัดแย้ง ที่มีฐานมาจากงานวิชาการ ที่มีความเข้มแข็ง สามารถปฏิบัติได้ และให้ผลสูง ซึ่งต่างจากนโยบายมาจากความรู้สึกซึ่งมีผลข้างเคียงได้มาก


ตีพิมพ์ครั้งแรก: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 17 ธันวาคม 2556 ในชื่อ “เวที สกว. ชี้ช่องปฏิรูปประเทศ แก้ต้นตอคอร์รัปชัน-ลดผูกขาด”

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ดูทั้งหมด