สถานการณ์ยืดเยื้อ ซ้ำเติมแรงงานตกงานเพิ่ม

ปี2014-01-30

ภาคธุรกิจห่วงรัฐเดินหน้าเลือกตั้งเพิ่มความตึงเครียด กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ ธปท.เกาะติดชี้เป็นปัจจัยเสี่ยง ที่ต้องจับตา เชื่อเงินบาทไม่แกว่งแรง ทีดีอาร์ไอเตือนการเมืองยืดเยื้อฉุดเศรษฐกิจแย่ แรงงานตกงานเพิ่ม มองกลุ่มปริญญาตรีน่าห่วง

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวถึงการเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ว่า การตัดสินใจไม่เลื่อนเลือกตั้งถือเป็นการตัดสินใจแบบไม่มีทางเลือกให้แก่ประเทศ ทำให้ปัญหาการเมืองอาจไม่สงบได้ง่าย และหากการเมืองยืดเยื้อย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้ภาคธุรกิจไม่เชื่อมั่นในการค้าและการลงทุน ขณะเดียวกันก็เพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นจนนำไปสู่ความรุนแรง โดยเฉพาะนับจากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง

สอดคล้องกับความเห็นของนายกลินท์ สารสิน เลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่มองว่า การตัดสินใจเดินหน้าเลือกตั้งวันเดิม ไม่ใช่ทางออกที่นำไปสู่ความสงบให้แก่ประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งจะเกิดผลกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่น หลังจากได้หารือกันพบว่า นักลงทุนญี่ปุ่นกังวลต่อสถานการณ์ในเมืองไทยมาก จนกระทั่งต้องระงับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ

ขณะที่ นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ปัญหาการเมืองในขณะนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม และมีผลกระทบต่อค่าเงินบาทอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นผลกระทบที่รุนแรงอะไร แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะนักลงทุนเองก็คงกำลังจับตาดูอยู่ ซึ่งสถานการณ์ของไทยในตอนนี้ ไม่เหมือนกับปี 2540 โดยเศรษฐกิจไทยไม่ได้มีความเปราะบาง เพราะไม่ได้ดำเนินนโยบายการเงินที่ไปบิดเบือนกลไกตลาด จะเห็นว่ามีการปล่อยให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด จึงไม่มีการสะสมความไม่สมดุล ดังนั้นโอกาสที่เงินบาทจะปรับตัวอย่างรุนแรงจึงไม่มี

ด้าน นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ปรับแผนยุทธศาสตร์และแผนงานส่งเสริมการส่งออกรับสถานการณ์การเมืองขณะนี้ โดยได้กำชับให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ 65 แห่งทั่วโลก ปรับกลยุทธ์การทำการค้าในเชิงเคาะประตูบ้านของ ผู้ซื้อต้นทางมากขึ้น การออกเยี่ยมผู้ซื้อ ผู้นำเข้ารายใหญ่ แนะนำและประสานกับผู้ส่งออกไทย ที่ส่งออกสินค้าคุณภาพและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้นำเข้าได้

นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในไตรมาสแรก และอาจจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นช่วงไตรมาส 2 หากการเมืองจบเร็วก็จะไม่มีผล กระทบมากนัก เนื่องจากไทยยังมีอัตราการว่างงานต่ำ

“ปัญหาที่น่าวิตกและคาดว่าจะปรากฏชัดในครึ่งหลังของปีนี้ และปีถัดไปคือ ผลกระทบจากปัญหาการเมือง จะทำให้นักลงทุนชะลอ หรือตัดสินใจไม่ลงทุนใหม่ หรือย้ายการลงทุนไปประเทศอื่น ซึ่งตรงนี้จะมีผลกระทบกับแรงงานพอสมควร โดยการเติบโตของเศรษฐกิจจะต่ำกว่าคาด ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีต้องปรับตัวมากขึ้นและเร็วขึ้น ชะลอการจ้างงานใหม่ จำกัดการจ้างงานใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น กลุ่มแรงงานที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ แรงงานใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดยเฉพาะระดับปริญญาตรีที่มีปัญหาว่างงานสะสมมาต่อเนื่องทุกปี” นายยงยุทธกล่าว


ตีพิมพ์ครั้งแรก: หนังสือพิมพ์พิมพ์คมชัดลึก วันที่ 30 มกราคม 2557 ในชื่อ “เกาะติดเลือกตั้งเพิ่มความเสี่ยงศก. ทีดีอาร์ไอเตือนยืดเยื้อฉุดเชื่อมั่นซ้ำเติมแรงงานตกงานเพิ่ม”