6 องค์กรวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์รวมพลังผลักดัน Thai PBO

ปี2014-04-17

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)


6 องค์กรวิชาวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์เห็นพ้องผลักดันให้มี Thai PBO เพื่อเติมกลไกปฎิรูประบบการคลังประเทศ ตีแผ่ข้อมูล หวังช่วยให้การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินภายใต้ระบอบประชาธิปไตยของไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)จัดเสวนาสาธารณะเรื่อง “ปฎิรูประบบการคลังด้วย Thai PBO (Thai Parliamentary Budget Office)”  โดย ดร.สมชัย จิตสุชน ในฐานะหัวหน้าโครงการส่งเสริมการจัดตั้งสำนักงบประมาณประจำรัฐสภาหรือ Thai PBO  พร้อมด้วยคณะนักวิจัย ได้ร่วมกันแถลงผลการศึกษา   โดยระบุว่า Thai PBO ถูกออกแบบให้เป็นหน่วยงานวิเคราะห์งบประมาณแผ่นดินและระบบการคลังประจำรัฐสภาอย่างโปร่งใสและเป็นกลางทางการเมือง  เป็นอิสระจากรัฐบาล หน้าที่หลักคือติดตามข้อมูล วิเคราะห์งบประมาณและการคลังภาครัฐ เพื่อสนับสนุนการทำงานของสมาชิกรัฐสภาและสนับสนุนข้อมูลแก่สาธารณชน

Thai PBO จะมีส่วนสำคัญยิ่งในการเสริมสร้างวินัยทางการคลัง เนื่องจากในปัจจุบันกระบวนการติดตามและวิเคราะห์การใช้จ่ายเงินแผ่นดินโดยฝ่ายนิติบัญญัติและภาคประชาชนมีข้อจำกัดเรื่องการเข้าถึงข้อมูลและคุณภาพของการวิเคราะห์เมื่อเทียบกับฝ่ายบริหาร ทำให้ระบบตรวจสอบถ่วงดุลการใช้เงินแผ่นดินภายใต้ระบอบประชาธิปไตยไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น Thai PBO จะช่วยสร้างสมดุลนี้ได้

ประเทศไทยขณะนี้ต้องการหน่วยงานแบบ Thai PBO อย่างเร่งด่วน โดยสามารถอาศัยกระแสการปฏิรูปในการผลักดันการจัดตั้งด้วยการออกเป็นกฏหมายที่รับรองความเป็นอิสระขององค์กรและของผู้อำนวยการ โดยพิจารณารูปแบบและทางเลือกต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับบริบทประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสถานะทางกฏหมายขององค์กร การคัดเลือกผู้อำนวยการ การรับประกันความเพียงพอของงบประมาณ การเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการทำงานของ Thai PBO เป็นต้น

สำหรับประเด็น “จะออกแบบและผลักดัน Thai PBO อย่างไร ให้เสริมสร้างวินัยการคลังได้จริง”ในวงเสวนาซึ่งประกอบด้วยคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์จาก 3 สถาบันการศึกษาคือ ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย  ผู้แทนธนาคารโลก และผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง สนับสนุนการมี Thai PBO ขึ้นในประเทศไทย  โดยเชื่อว่าจะเป็นกลไกช่วยสร้างวินัยการเงินการคลังให้เกิดการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเหมาะสม  พร้อมกันนี้ได้ให้ข้อสังเกตสำคัญหลายประการ กล่าวคือ

(จากซ้ายไปขวา) ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม, ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา, ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์, รศ.ดร.ชโยดม สรรพศรี
(จากซ้ายไปขวา) ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม, ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา, ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์, รศ.ดร.ชโยดม สรรพศรี

ศ.ดร.สกนธ์ วรัญญูวัฒนา คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กลไกของ PBO (Parliamentary Budget Office) จะช่วยลดความบิดเบือนเรื่องงบประมาณและเรื่องกลไกนโยบายทางการคลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงช่วยเติมเต็มข้อมูลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้การทำ PBO ต้องมีการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารให้สาธารณชนรับรู้ให้มากที่สุด โดยหัวใจของ PBO คือ ความเป็นกลาง ความมีอิสระจากหน่วยงานอื่น ความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ความน่าเชื่อถือของกระบวนการ และต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน

รศ.ดร.ชโยดม สรรพศรี คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า การจัดตั้ง Thai PBO ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่ต้องระวังคือความน่าเชื่อถือขององค์กร และเป้าหมายในการตรวจสอบ  โดยยึดประชาชนเป็นหลักในการเข้าถึงข้อมูล ที่สำคัญ Thai PBO ต้องมีโครงสร้างองค์กรที่มีความเข้มแข็งไม่สามารถแทรกแซงได้ รวมถึงต้องมีเครื่องมือการตรวจสอบที่หลากหลายและมีบุคลากรที่ได้รับการยอมรับในการตรวจสอบด้วย

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย กล่าวว่า Thai PBO มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเมืองระบบประชาธิปไตยของไทย จะมีส่วนช่วยให้ประชาชนรู้ต้นทุนของนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงเมื่อจะไปเลือกตั้ง และเมื่อรัฐบาลนำนโยบายที่หาเสียงเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา Thai PBO จะช่วยให้สมาชิกรัฐสภามีข้อมูลที่เป็นกลางถึงต้นทุนและผลกระทบทางการคลังของนโยบายเหล่านั้น  และเมื่อพิจารณาจากงบประมาณที่ต้องใช้ในการจัดตั้ง Thai PBO  ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับ การจัดตั้งจึงไม่มีความเสี่ยงแต่อย่างใด

ดร.สมเกียรติ เสนอว่า ควรจัดตั้ง Thai PBO โดยยกร่างเป็นพระราชบัญญัติที่ผ่านการเปิดรับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง  กำหนดให้ Thai PBO ต้องตรวจสอบการใช้เงินนอกงบประมาณและการใช้เงินขององค์กรกึ่งการคลัง มีบทลงโทษสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปกปิดข้อมูล  คณะกรรมการของ Thai PBO อาจมีนักการเมืองที่มีสัดส่วนเท่ากันระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเพื่อให้เกิดความสมดุล และเสริมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความอิสระจากการเมือง คณะกรรมการ ต้องมีหน้าที่รับประกันความเป็นอิสระขององค์กรด้วย  สำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการ Thai PBO ควรมาจากการสรรหาและเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลด้วยเสียงข้างมาก ไม่เป็นบุคคลที่เลือกข้างทางการเมือง และมีการตรวจสอบโดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

ผศ.ดร.ณดา จันทร์สม คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนา บริหารศาสตร์(นิด้า) เปิดเผยว่า ควรมีกลไกในการวิเคราะห์งบประมาณที่จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย รวมทั้งไม่ควรทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เช่น สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่สำคัญควรให้สาธารณชนมีส่วนรวมในการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณได้ ซึ่งเชื่อว่า Thai PBO จะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปกระบวนการงบประมาณให้เป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างวินัยการเงินการคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(จากซ้ายไปขวา) Mr.Shabih Mohib, ดร.สมชัย จิตสุชน,  ดร.ลัษมณ อรรถาพิช, ผศ.ปกป้อง จันวิทย์
(จากซ้ายไปขวา) Mr.Shabih Mohib, ดร.สมชัย จิตสุชน, ดร.ลัษมณ อรรถาพิช, ผศ.ปกป้อง จันวิทย์

Mr.Shabih Mohib  ผู้แทนธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า หัวใจแห่งความสำเร็จขององค์กร Thai PBO คือ การไม่เลือกข้างหรือไม่มีอคติทางการเมือง แต่มุ่งนำเสนอข้อเท็จจริง โดยการสร้างเครือข่ายและทำงานเชิงรุก ซึ่ง Thai PBO จะเป็นองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการให้ข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจทั้งสมาชิกรัฐสภาและประชาชนได้เป็นอย่างดี

ดร.ลัษมณ อรรถาพิช  ผู้แทนธนาคารพัฒนาเอเชีย สำนักงานผู้แทนประจำประเทศไทย ระบุว่า เห็นด้วยที่ไทยจะมีองค์กร Thai PBO แต่ยังคงเป็นห่วงในเรื่องความเป็นอิสระและความเป็นกลางของ Thai PBO ในการตรวจสอบนโยบายงบประมาณของรัฐบาล รวมทั้งสถานะขององค์กรดังกล่าวที่ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้องค์กร Thai PBO สามารถขับเคลื่อนการตรวจสอบงบประมาณให้เป็นไปได้ด้วยดี ซึ่งการทำงานดังกล่าวจะต้องมีกลไกของภาคประชาชนในการเข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย

อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการใช้งบประมาณไม่โปร่งใสของรัฐบาล และการใช้เงินนอกงบประมาณที่สูงขึ้นนอกเหนือจากนโยบายที่ระบุไว้ ดังนั้น วงเสวนาเชื่อว่า การจัดตั้ง Thai PBO ภายใต้การบริหารงานของผู้อำนวยการ PBO ที่มีความโปร่งใสในการทำงาน ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองหรือไม่ชี้ช่องว่านโยบายใดถูกหรือผิด มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์การตรวจสอบ จะช่วยให้การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินแผ่นดินภายใต้ระบอบประชาธิปไตยของไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น.   

——————-

รับชมเทปบันทึกภาพการสัมมนาได้ ที่นี่