หลังจากเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยเริ่มสงบ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องโครงการรับจำนำข้าวทันที ดังนั้นรายการ “คม ชัด ลึก” จึงจัดเสวนาในหัวข้อ ปัญหาข้าว…คราวต่อไป?
ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า เรื่องการจำนำข้าวในอดีตเป็นสิ่งที่ดี มีประโยชน์ต่อชาวนาโดยตรง แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับถูกบิดเบือนจนเสียรูปแบบไป ก็อย่างที่ทราบกันดีว่า มีการตั้งราคาสูงกว่าตลาด ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ หากราคาจำนำข้าวใกล้เคียงกับราคาตลาดก็คงจะไม่เกิดความเสียหายอย่างนี้
ในอดีต รัฐบาลก่อนหน้านี้เคยมีการรับจำนำข้าว เพื่อช่วยเหลือชาวนา หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ระบายขายข้าวออกไป โดยรัฐบาลจะรับจำนำข้าวในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด จำนำแล้วชาวนาก็รับเงิน แต่หากราคาข้าวในตลาดมีราคาสูง ชาวนาก็หาเงินมาไถ่ออกไป แล้วนำไปขาย แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ชาวนาก็ปล่อยหลุด
แต่ที่เกิดความเสียหายจนปั่นป่วนไปการเงินไทยขณะนี้ก็มีสภาพคล่องเหลืออยู่มาก ทั้งประเทศ ก็เนื่องจากชาวนานำข้าวไปจำนำ แล้วไม่ได้เงิน อีกทั้งยังมีการฉ้อราษฎร์บังหลวง
อย่างไรก็ตาม ต้องแบ่งให้ออกด้วยว่า ชาวนาที่ร่ำรวยกับชาวนาที่ยากจน ซึ่งชาวนาที่ยากจนก็จนจริงๆ ปลูกข้าวในพื้นที่เพียง 5-10 ไร่ และยิ่งเขาทำนาเพียงอย่างเดียว ไม่พอกินแน่นอน
การให้เงินทองแก่ชาวนาเป็นจำนวนมากจึงเป็นการช่วยเหลือที่ผิดจุด ไม่ใช่เหมาเอาว่า ขึ้นชื่อว่าชาวนาแล้วต้องยากจน ต้องมีการพิจารณาให้ละเอียด พิจารณาให้ลึก
สถานการณ์ตลาดข้าวค่อนข้างอ่อนไหว โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า ปล่อยให้ข้าวอยู่ในโกดังไปก่อน อย่าเพิ่งเร่งไประบาย เพราะจะล้นตลาด หากข้าวเสียหายก็ให้ไปเอาเรื่องผู้ที่ปล่อยให้มีการสต็อกข้าวไว้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีสต็อกลมอยู่ไม่น้อยทีเดียว
สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้ก็คือ ต้องค่อยๆ ระบายข้าวออกขาย
สิ่งที่สำคัญของรัฐบาลในขณะก็คือ จะตัดสินใจทำอย่างไรกับข้าวที่มีอยู่ในสต็อก อย่าเพิ่งไปยุ่งกับข้าวที่กำลังจะออกมาใหม่
ตีพิมพ์ครั้งแรก: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก วันที่ 27 พฤษภาคม 2557