tdri logo
tdri logo
16 กุมภาพันธ์ 2015
Read in Minutes

Views

ถกอาร์เซปอืดคืบหน้าแค่30%

โพสต์ทูเดย์ พาณิชย์รับการเจรจาอาร์เซปคืบหน้า 30% หารือแค่เรื่องลดภาษี ข้อผูกพันเปิดเสรีบริการ-ลงทุน

น.ส.อรุณี พูลแก้ว รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายในงานเสวนาเรื่อง “RCEP การเจรจาการค้าในภูมิภาคที่ประชาชนต้องรู้” ว่า ยอมรับว่าการเจรจาการจัดทำหุ้นส่วนเศรษฐกิจในภูมิภาค (อาร์เซป) ในขณะนี้คืบหน้าไปเพียง 30% ทั้งที่ผ่านมาได้เจรจากันแล้ว 7 ครั้ง และมีเป้าหมายว่าจะต้องเจรจาให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ทันกับการเปิดประชาคมอาเซียน

สาเหตุที่ทำให้การเจรจาดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

คือ ระดับการพัฒนาที่แตกต่างกันของทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศคู่เจรจาอีก 6 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น อินเดีย นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ทำให้ความต้องการและท่าทีในการเจรจาของประเทศต่างๆ ที่มีต่อแต่ละประเด็นแตกต่างกัน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการเจรจาได้เน้นเรื่องวิธีการลดภาษีสินค้าระหว่างกัน วิธีการเขียนข้อผูกพันในการเปิดเสรีการบริการและการลงทุนเท่านั้น

“ระดับการพัฒนาที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ ทำให้มีท่าทีไม่เหมือนกัน บางประเด็นอาจเข้าใจไม่ตรงกัน ส่งผลให้การเจรจา อาร์เซปไม่คืบหน้าเท่าที่ควร การเจรจายังมีเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
เข้ามาด้วย ซึ่งประเทศอาเซียนและอินเดียต้องการให้ครอบคลุมตามกฎขององค์การการค้าโลก (ดับเบิ้ลยูทีโอ) แต่เกาหลีและญี่ปุ่นที่มีเทคโนโลยีสูงกลับต้องการการคุ้มครองที่มากกว่ากฎของดับเบิ้ลยูทีโอเป็นต้น” น.ส.อรุณี กล่าว

ด้าน นายวิศาล บุปผเวส ที่ปรึกษาอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าการเปิดเจรจาในทุกกรอบข้อตกลงล้วนมีจุดเสี่ยงทั้งนั้น แต่จะต้องพิจารณาหากรอบเจรจาที่มีประโยชน์ต่อประเทศมากที่สุด ซึ่งอาร์เซปน่าจะดีที่สุดสำหรับประเทศไทยในเวลานี้ เพราะเป็นกรอบเจรจาขนาดใหญ่ที่จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างอาเซียนและประเทศในภูมิภาคอื่น

อย่างไรก็ตาม เห็นว่าเรื่องการลดภาษีสินค้าระหว่างกัน ควรจะมีโครงสร้างและอัตราภาษีเดียวกันทุกประเทศ จากปัจจุบันมีการใช้อัตราภาษีมากถึง 10 โครงสร้าง ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการส่งออกสับสนและระบบศุลกากรต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องการลดภาษีระหว่างกันในทางการค้าถือว่ามีผลเล็กน้อย แต่หากสามารถลด ข้อกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (เอ็นทีบี) หรือข้อกีดกันทางการค้าและบริการระหว่างกันได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก

ทั้งนี้ หากเจรจาสำเร็จ อาร์เซปจะเป็นกลุ่มการค้าเสรีใหญ่ที่สุด และมีตลาดรองรับมากที่สุดในโลก เนื่องจากประเทศสมาชิกมีจีดีพี รวมกันมูลค่ากว่า 16,761 ล้านเหรียญสหรัฐ มีประชากรรวม 3,358 ล้านคน.

——————

หมายเหตุ: ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ โพสต์ ทูเดย์ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 ในคอลัมน์ “ถกอาร์เซปอืดคืบหน้าแค่30%”

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ดูทั้งหมด