tdri logo
tdri logo
ก้าวสู่อนาคตเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก: ห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง เศรษฐกิจสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่เป็นธรรม
21 กุมภาพันธ์ 2025
ก้าวสู่อนาคตเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก: ห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง เศรษฐกิจสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจที่เป็นธรรม

ภายใต้บริบทภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบันที่ส่งผลให้การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมีความอ่อนไหวมากขึ้นสหรัฐอเมริกาได้ริเริ่มกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (The Indo-Pacific Economic Framework for Prosperity: IPEF) ในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนกับประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ปัจจุบันมีประเทศสมาชิก 14 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ อินเดีย ฟิจิ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และไทย)กรอบความร่วมมือ IPEF ประกอบด้วย 4 เสาความร่วมมือหลัก (Pillars) ได้แก่

– Pillar I เสาความร่วมมือที่ 1 ด้านการค้า (trade)
– Pillar II เสาความร่วมมือที่ 2 ด้านห่วงโซ่อุปทาน (supply chain)
– Pillar III ด้านเศรษฐกิจที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (clean economy)
– Pillar IV เสาความร่วมมือที่ 4 ด้านเศรษฐกิจที่เป็นธรรม (fair economy)

IPEF ได้ลงนามความตกลง Pillar II, Pillar III และ Pillar IV เรียบร้อยแล้ว ยกเว้น Pillar I
ที่จนถึงสิ้นปี 2567 ประเทศสมาชิกยังไม่สามารถบรรลุสรุป

กรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)ได้ศึกษาโครงการการศึกษาเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก
มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อประเมินผลประโยชน์ ผลกระทบ ความพร้อมของประเทศไทย
และเสนอแนะแนวทางการรองรับปรับตัวในการเข้าร่วมกรอบความร่วมมือ IPEF ของไทยในแต่ละเสาความร่วมมือเพื่อให้รัฐบาล รัฐสภา ภาคธุรกิจและประชาชนไทยมีข้อมูลว่า ไทยจะได้รับประโยชน์ ผลกระทบและข้อพึงระวังจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิก IPEF รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเตรียมพร้อมและหาแนวทางรองรับปรับตัวได้อย่างเหมาะสม โดยการศึกษานี้ได้ทุนอุดหนุนการวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ปีงบประมาณ 2566

นักวิจัย

แชร์บทความนี้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ดูทั้งหมด