วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ รองประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการอนุมัติการจัดซื้อจัดจ้างโครงการบริหารจัดการน้ำ วงเงิน 2.91 แสนล้านบาท ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ได้อธิบายขั้นตอนรวมถึงการต่อราคาซึ่งถือว่าเป็นที่น่าพอใจ และ กบอ.ได้อนุมัติตามที่เสนอมา โดยจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติต่อไป ทั้งนี้ได้มอบหมายให้นายธงทอง เข้าชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ในวันที่ 18 มิ.ย. อีกครั้งหนึ่ง ส่วนเงินที่สามารถต่อรองลงมาได้นั้น ก็ยังอยู่ในแผนบริหารจัดการน้ำ เช่นการพัฒนาแหล่งน้ำ แก้มลิง และบึงต่างๆ เช่นบึงศรีไฟ บึงบอระเพ็ด และยืนยันว่าจะไม่ซ้ำซ้อนกับงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาทที่ได้มีการดำเนินการก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า การต่อราคากับบริษัทที่ผ่านการประมูลสามารถประหยัดงบประมาณ ได้จำนวนเท่าใด นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ยังไม่สามารถชี้แจงตัวเลขได้ในขณะนี้ ต้องให้ ครม.พิจารณาการอนุมัติกู้เงินก่อน หลังจากนั้นจะมีการชี้แจงตัวเลขทั้งหมดว่าแต่ละโมดุลสามารถลดได้เท่าไร ซึ่งแต่ละโมดุลมีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ผลการต่อรองราคาถือเป็นผลที่น่าพอใจ เพราะทางราชการได้ประโยชน์เพราะนอกจากการก่อสร้างโครงการแล้ว ยังมีการเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าไปดูงานได้

นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีพิจารณาแผนการกู้เงินในการบริหารจัดการน้ำเพื่อจะ เสนอ ครม. ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ วงเงิน 3.04 แสนล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบทีโออาร์ 2.91 แสนล้านบาท และเป็นเรื่องการจัดจ้าง บริษัทที่ปรึกษาวงเงิน 8 พันกว่าล้านบาท ที่ได้มีการอนุมัติไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ครั้งนี้จะเป็นการขออนุมัติแผนการใช้เงินและแผนการกู้เงิน ทั้งนี้ สำหรับการจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษานั้น จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มวิศวกรรมที่จะเข้ามาดูแลเรื่องแบบการก่อสร้าง และ2.กลุ่มที่จะเข้ามาดูแลขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งจะมีหลายบริษัททั้งจากในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนเงินที่เหลือจะเป็นโครงการบริหารจัดการน้ำต่างๆ

นายนิวัฒน์ธำรง ยังได้กล่าวถึงแผนการกู้เงินด้วยว่า ทางกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณ ได้มีการเตรียมการและต่อรองกับสถาบันการเงินไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจาก ครม. อนุมัติในวันที่ 18 มิ.ย. สำนักงบประมาณ จะนำไปดำเนินการเพื่อส่งต่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณ ในการยื่นกู้ และจะมีการลงนามกู้เงิน กับสถาบันการเงินในวันที่ 30 มิ.ย. ส่วนเรื่องของดอกเบี้ยถือว่าเป็นที่น่าพอใจ

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลปกครองได้นัดพิจารณาคำร้องที่ กลุ่มสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ขอให้รัฐบาลใช้กระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ก่อนตัดสินใจดำเนินการโครงการ ในวันที่ 27 มิ.ย. นี้ นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ก็ต้องรอคำตัดสินว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร หากตัดสินให้เดินต่อได้ก็ไม่มีปัญหา แต่หากตัดสินว่าต้องหยุด เราก็ต้องมาพิจารณาคำพิพากษาของศาลและปรึกษาฝ่ายกฎหมายว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่แน่นอนที่สุดว่าเรายอมรับคำตัดสินของศาล

ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์เดลินิวส์ วันที่ 14 มิถุนายน 2556 ในชื่อ กบอ. อนุมัติ งบทีโออาร์ -เตรียมเสนอแผนกู้เงิน 3.04 แสนล้าน