กรุงเทพฯ 27 พ.ค. – ภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาสังคม กังวลวิธีการดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ว่ารวบรัดเกินไป แนะให้รับฟังจากประชาชนทุกภาคส่วน
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) จัดการประชุม Round Table โครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท เพื่อเป็นเวทีนำเสนอและรับรู้ข้อเท็จจริงของโครงการฯ ต่อภาคธุรกิจเอกชนและภาคประชาสังคมในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและคำนึงถึงความคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ได้ริเริ่มนำสัญญาคุณธรรม 3 ฝ่าย มาใช้เพื่อให้โครงการของภาครัฐมีความโปร่งใสมากที่สุด โดยเริ่มที่โครงการ 2 ล้านล้านบาท และหวังว่าจะนำมาใช้กับโครงการน้ำด้วย
นายสุวัฒน์ เชาว์ปรีชา นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า โครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท เป็น “งบน้ำเพื่อชีวิต ไม่มีส่วนร่วมคิด แต่มีสิทธิ์ห่วงใย” พร้อมแสดงความกังวลที่ กบอ.ไม่ได้ทำการวิเคราะห์โครงการ และไม่เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม แต่ใช้วิธีการคิดใหม่ที่รวบรัด ไม่มีแผนแม่บท ขอยืนยันว่า โครงการฯ จะไม่สามารถทำเสร็จภายใน 5 ปี ซึ่ง กบอ.ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ขณะที่นายศศินทร์ เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร คัดค้านการบรรจุแผนก่อสร้างเขื่อนแม่วงก์และเขื่อนแก่งเสือเต้นไว้ในโครงการ เพราะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง อีกทั้งยังไม่มีการทำการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย
ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์สำนักข่าวไทย วันที่ 27 พฤษภาคม 2556 ในชื่อ ภาคเอกชนกังวลงบบริหารน้ำ 3.5 แสนล้าน