Privacy Policy

Privacy Policy

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (“สถาบันฯ”)
มีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.. 2562 (“PDPA”)
ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้ข้อมูลแก่ท่านตามหลักการเปิดเผยโปร่งใส (Transparency Principle)
เนื้อหาในส่วนด้านล่างนี้ เป็นนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
แยกตามกิจกรรมสำคัญที่
TDRI ทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

Cookies

Cookies

เว็ปไซต์นี้ทำการเก็บคุกกี้ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง Strictly Necessary Cookies

เว็บไซต์นี้ (https://tdri.or.th/) ให้บริการโดย สถาบันฯ ร่วมกับไวไวซอฟต์ เพื่อให้สถาบันฯ สามารถให้บริการแก่ท่านผ่านเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถาบันฯ มีความจำเป็นในการเก็บคุกกี้ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง (Strictly Necessary Cookies) ภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests) โดยการเก็บคุกกี้ในลักษณะดังกล่าวนั้นจำเป็นต่อการทำงานพื้นฐานของเว็บไซต์

show more

[และนอกจากนี้เพื่อที่จะให้สถาบันฯ สามารถพัฒนาคุณภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านได้ดีและตรงต่อการใช้งานของท่านยิ่งขึ้น เว็บไซต์อาจมีการเก็บคุกกี้ประเภทอื่นนอกเหนือจากคุกกี้ประเภทที่จำเป็นต่อการใช้งาน หากท่านไม่ประสงค์ให้มีการดำเนินการดังกล่าว ท่านสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน และท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคุกกี้เพิ่มเติม รวมถึงวิธีการลบและคุกกี้ได้ที่ www.aboutcookies.org]

Recruitment

สำหรับผู้สมัครงาน

ในการประกอบการสมัครงาน สถาบันฯจำเป็นต้องทำการเก็บรวบรวม
ชื่อ-นามสกุล, ชื่อเล่น, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, ที่อยู่ และข้อมูลการศึกษาจากท่านผู้สมัครงาน

ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่

วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ : เพื่อเป็นข้อมูลติดต่อและเพื่อใช้ในการจัดทำสัญญาจ้าง
ฐานทางกฎหมาย : ฐานความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract) และ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)

ข้อมูลการศึกษา

วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ : เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของสถาบันฯในการรับเข้าทำงาน
ฐานทางกฎหมาย : ฐานความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract)

show more

เนื้อหาส่วนเต็ม

ในการประกอบการสมัครงาน สถาบันฯทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้

ข้อมูลที่จัดเก็บ วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ ฐานทางกฎหมาย
ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น อีเมล์ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เพื่อเป็นข้อมูลติดต่อและเพื่อใช้ในการจัดทำสัญญาจ้าง

ฐานความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract): เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดทำและปฏิบัติตามสัญญาจ้าง ในกรณีที่ท่านได้รับเลือกเข้าทำงาน

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests): โดยเมื่อพิจารณาจากหลัก Legitimate Interest Assessment สถาบันฯเห็นว่า

– ข้อมูลที่จัดเก็บไม่มีความอ่อนไหวหรือความเสี่ยงต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล

– เจ้าของข้อมูลสามารถคาดเดาถึงวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ

– สถาบันฯมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เหมาะสม

ข้อมูลการศึกษา: ระดับและสถาบันการศึกษา ใบแสดงผลการศึกษา ประกาศนียบัตร ฯลฯ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจของสถาบันฯในการรับเข้าทำงาน

ฐานความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract): เพื่อพิจารณาคุณสมบัติสำหรับการจ้างงาน

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest): โดยเมื่อพิจารณาจากหลัก Legitimate Interest Assessment สถาบันฯเห็นว่า

– ข้อมูลที่จัดเก็บไม่มีความอ่อนไหวหรือความเสี่ยงต่อสิทธิและเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล

– เจ้าของข้อมูลสามารถคาดเดาถึงวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ

–  สถาบันฯมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลที่เหมาะสม

 

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล (Data retention )

สถาบันวิจัยฯจะทำการจัดเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่ได้ระบุไว้ข้างต้น และเพื่อการพิจารณาตำแหน่งงานอื่น ๆ ที่เหมาะสมในอนาคต โดยจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวภายใน 2 ปี  ทั้งนี้ หากท่านได้รับเลือกเข้าทำงาน ทางสถาบันจะแจ้งนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับพนักงานให้ท่านทราบในภายหลัง

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Disclosure)

สถาบันวิจัยฯ จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกไม่ว่าในกรณีใด และจะไม่โอนข้อมูลของท่านไปยังบุคคลหรือหน่วยงานอื่นทั้งในและนอกประเทศ

มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Measures)

สถาบันวิจัยฯ ดำเนินงานตามความสมเหตุสมผลทางเทคนิคและใช้วิธีการทำงานอันสมควรเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยข้อมูลจะมีการจัดเก็บในฐานข้อมูลที่มีการดูแลและถูกจำกัดสิทธิเข้าถึง (access control)

Research

งานวิจัยของสถาบันฯ

สำหรับการทำวิจัยในบางกรณี สถาบันฯอาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผู้ให้ความอนุเคราะห์ในงานวิจัย ตั้งแต่ข้อมูลเพื่อทำการติดต่อ เช่นชื่อ-นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ ไปจนถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว เช่น ข้อมูลสุขภาพ เป็นต้น

ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นของโครงการวิจัยต่างๆ

เช่น เพศ อายุ การศึกษา รายได้ครัวเรือน โรคประจำตัว เป็นต้น
วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ : เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการทำวิจัย
ฐานทางกฎหมาย : ฐานการวิจัย (Research)

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ

เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และ E-mail
วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ : เพื่อติดต่อท่านเพื่อเข้าสัมภาษณ์หรือเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลังจากการสัมภาษณ์
ฐานทางกฎหมาย : ฐานการวิจัย (Research)

ข้อมูลทางการเงิน

เช่น เลขที่บัญชีของท่าน (ในบางกรณี)
วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ : เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการร่วมสัมภาษณ์หรือให้ความร่วมมือกับทางสถาบันวิจัยฯ
ฐานทางกฎหมาย : เพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract)

**หมายเหตุ: การทำวิจัยในโครงการต่างๆอาจมีรายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่างกัน นโยบายส่วนบุคคลข้างต้นเป็นเพียงเนื้อหาโดยคร่าวสำหรับงานวิจัยในลักษณะทั่วไป ให้ยึดเนื้อหาตามที่ได้ทำการแจ้งตามแบบแจ้งก่อนหรือขณะเก็บข้อมูลเป็นหลัก

show more

เนื้อหาส่วนเต็ม

สำหรับการทำวิจัยในบางกรณี สถาบันฯอาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผู้ให้ความอนุเคราะห์ดังนี้

ข้อมูลที่ทำการจัดเก็บ วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ ฐานทางกฎหมาย
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นของโครงการวิจัยต่าง เช่น เพศ อายุ การศึกษา รายได้ครัวเรือน โรคประจำตัว เป็นต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการทำวิจัย

ฐานการวิจัย (Research) : ข้อมูลที่จัดเก็บมีความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการทำวิจัยในโครงการต่างๆ และผลจากงานวิจัยจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในอนาคต

 

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และ E-mail เพื่อติดต่อท่านเพื่อเข้าสัมภาษณ์หรือเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลังจากการสัมภาษณ์
ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีของท่าน (ในบางกรณี) เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการร่วมสัมภาษณ์หรือให้ความร่วมมือกับทางสถาบันวิจัยฯ เพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract)

 

*หมายเหตุ: โดยปกติแล้ว ข้อมูลที่ถูกเก็บเพื่อการทำวิจัยจะถูกทำให้เป็นข้อมูลนิรนาม (Anonymize) เพื่อไม่ให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ และเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน ทั้งนี้ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยบนงานวิจัยที่จะมีการตีพิมพ์ (เช่นข้อความอ้างอิงหรือภาพถ่ายของท่าน) สถาบันวิจัยฯจะติดต่อและแจ้งท่านก่อนการเปิดเผยข้อมูล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

สถาบันวิจัยฯจะทำการจัดเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลาตามวัตถุประสงค์ในการทำวิจัยในโครงการ โดยเมื่อพ้นระยะเวลาของโครงการดังกล่าวแล้ว สถาบันวิจัยฯ จะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ในที่สุด ทั้งนี้ หากสถาบันวิจัยฯมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลานานกว่านี้ ทางสถาบันวิจัยฯจะติดต่อและแจ้งให้ท่านทราบ

มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Measures)

สถาบันวิจัยฯ ดำเนินงานตามความสมเหตุสมผลทางเทคนิคและใช้วิธีการทำงานอันสมควรเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่สถาบันวิจัยฯว่าจ้างบุคคลที่สามเพื่อเก็บข้อมูลสำหรับการทำวิจัย ทางสถาบันวิจัยจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลท่าน

**หมายเหตุ: การทำวิจัยในโครงการต่างๆอาจมีรายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่างกัน นโยบายส่วนบุคคลข้างต้นเป็นเพียงเนื้อหาโดยคร่าวสำหรับงานวิจัยในลักษณะทั่วไป ให้ยึดเนื้อหาตามที่ได้ทำการแจ้งตามแบบแจ้งก่อนหรือขณะเก็บข้อมูลเป็นหลัก

Recording

การเก็บภาพ/วีดีโอในงาน

ในงานกิจกรรมหรือสัมนา สถาบันฯอาจทำการเก็บภาพถ่ายบรรยากาศภายในงานรวมถึงบันทึกวีดีโอซึ่งติดภาพใบหน้า เสียง หรือข้อมูลอื่นใดที่ระบุตัวตนท่านได้

ภาพถ่ายบรรยากาศภายในงาน

โดยภาพถ่ายอาจติดภาพใบหน้า หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลผู้เข้าร่วมงานได้ เพื่อใช้สำหรับการประชาสัมพันธ์ รวมถึงการประเมินผลการดำเนินงานย้อนหลังและการพัฒนาการดำเนินงานของโครงการต่างๆ

วิดีโอ

ซึ่งอาจติดภาพใบหน้า เสียง หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งสามารถระบุตัวบุคคลผู้เข้าร่วมงานได้
เพื่อการประเมินผลการดำเนินงานย้อนหลัง, เพื่อการพัฒนาโครงการต่างๆ, และเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ต่อบุคคลากรและสังคม

ชื่อ-นามสกุล, ตำแหน่งงาน, เบอร์โทรศัพท์, และ E-mail

เพื่อการติดต่อและการลงทะเบียนเข้าร่วมงาน (ในบางกรณี)

ฐานทางกฎหมาย (Legal Bases)
A. การประมวลผลโดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interests)
B. ความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract)
C. ความยินยอม (Consent)

show more

เนื้อหาส่วนเต็ม

สำหรับการทำวิจัยในบางกรณี สถาบันฯอาจจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผู้ให้ความอนุเคราะห์ดังนี้

ข้อมูลที่ทำการจัดเก็บ วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ ฐานทางกฎหมาย
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประเด็นของโครงการวิจัยต่าง เช่น เพศ อายุ การศึกษา รายได้ครัวเรือน โรคประจำตัว เป็นต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการทำวิจัย

ฐานการวิจัย (Research) : ข้อมูลที่จัดเก็บมีความจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการทำวิจัยในโครงการต่างๆ และผลจากงานวิจัยจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะในอนาคต

 

ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และ E-mail เพื่อติดต่อท่านเพื่อเข้าสัมภาษณ์หรือเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลังจากการสัมภาษณ์
ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีของท่าน (ในบางกรณี) เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการร่วมสัมภาษณ์หรือให้ความร่วมมือกับทางสถาบันวิจัยฯ เพื่อปฏิบัติตามสัญญา (Contract)

 

*หมายเหตุ: โดยปกติแล้ว ข้อมูลที่ถูกเก็บเพื่อการทำวิจัยจะถูกทำให้เป็นข้อมูลนิรนาม (Anonymize) เพื่อไม่ให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ และเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน ทั้งนี้ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเปิดเผยบนงานวิจัยที่จะมีการตีพิมพ์ (เช่นข้อความอ้างอิงหรือภาพถ่ายของท่าน) สถาบันวิจัยฯจะติดต่อและแจ้งท่านก่อนการเปิดเผยข้อมูล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

สถาบันวิจัยฯจะทำการจัดเก็บข้อมูลเป็นระยะเวลาตามวัตถุประสงค์ในการทำวิจัยในโครงการ โดยเมื่อพ้นระยะเวลาของโครงการดังกล่าวแล้ว สถาบันวิจัยฯ จะทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถระบุตัวตนได้ในที่สุด ทั้งนี้ หากสถาบันวิจัยฯมีความจำเป็นที่จะต้องเก็บข้อมูลของท่านเป็นระยะเวลานานกว่านี้ ทางสถาบันวิจัยฯจะติดต่อและแจ้งให้ท่านทราบ

มาตรการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Measures)

สถาบันวิจัยฯ ดำเนินงานตามความสมเหตุสมผลทางเทคนิคและใช้วิธีการทำงานอันสมควรเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่สถาบันวิจัยฯว่าจ้างบุคคลที่สามเพื่อเก็บข้อมูลสำหรับการทำวิจัย ทางสถาบันวิจัยจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลท่าน

**หมายเหตุ: การทำวิจัยในโครงการต่างๆอาจมีรายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่างกัน นโยบายส่วนบุคคลข้างต้นเป็นเพียงเนื้อหาโดยคร่าวสำหรับงานวิจัยในลักษณะทั่วไป ให้ยึดเนื้อหาตามที่ได้ทำการแจ้งตามแบบแจ้งก่อนหรือขณะเก็บข้อมูลเป็นหลัก

Rights of data subject

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

สถาบันฯ เปิดช่องทางให้เจ้าของข้อมูลสามารถขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ อันประกอบไปด้วย
1) สิทธิที่ในการเข้าถึงสำเนาข้อมูล    2) สิทธิในการแก้ไขข้อมูล 3) สิทธิในการขอลบข้อมูล 4) สิทธิในการขอคัดค้านการประมวลผล 5) สิทธิในการระงับการประมวลผล และ 6) สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล

**ทั้งนี้ เงื่อนไขการใช้สิทธิเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อได้รับคำร้องขอใช้สิทธิ สถาบันฯจะทำการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ในกรณีที่สถาบันฯเห็นว่าไม่สามารถดำเนินการตามคำขอได้ สถาบันฯจะทำการติดต่อกลับโดยไม่ชักช้า

show more

เนื้อหาส่วนเต็ม

ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล (“Individual Participant Principle”), หลักความถูกต้องของข้อมูล (“Accuracy”), หลักความถูกต้องตามกฎหมาย ความเป็นธรรม และการเปิดเผย (“Lawfulness, Fairness, and Transparency) สถาบันฯจัดเตรียมช่องทางให้ท่านเจ้าของข้อมูลสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิตามกฎหมายได้ ดังนี้

  • สิทธิในการเข้าถึงสำเนาข้อมูล: ท่านสามารถส่งคำร้องขอให้สถาบันให้สำเนาต่อท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกจัดเก็บ เหตุผล วิธีการ ระยะเวลาในการจัดเก็บ และบุคคลที่สามผู้ได้รับข้อมูลต่อจากสถาบันฯ
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูล: ในกรณีที่จำกัด หากท่านเห็นว่าข้อมูลเกี่ยวกับท่านที่สถาบันฯจัดเก็บมีเนื้อหาไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่สมบูรณ์ ท่านสามารถส่งคำร้องขอให้สถาบันฯแก้ไขข้อมูล ทำให้เนื้อหาเป็นปัจจุบัน หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ตกหล่น
  • สิทธิในการขอลบข้อมูล: ในกรณีที่จำกัด หากท่านไม่ประสงค์จะให้สถาบันฯเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป ท่านเจ้าของข้อมูลสามารถร้องขอให้สถาบันฯทำการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลผล: ในกรณีที่จำกัด หากท่านไม่เห็นด้วยกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่า ท่านสามารถส่งคำร้องขอให้สถาบันฯหยุดการประมวลผลชุดข้อมูลของท่านได้
  • สิทธิในการระงับการประมวลผล: ในกรณีที่จำกัด ท่านสามารถส่งคำร้องขอให้สถาบันฯระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการชั่วคราวได้
  • สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคล: ในกรณีที่จำกัด หากท่านประสงค์จะให้ชุดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่กับสถาบันฯถูกโอนย้ายไปยังผู้ควบคุมข้อมูลอื่น ท่านสามารถส่งคำร้องขอให้สถาบันฯทำการเตรียมสำเนาและทำการโอนย้ายข้อมูลของท่านไปยังผู้ควบคุมอื่นได้

**ทั้งนี้ เงื่อนไขการใช้สิทธิเป็นไปตามกฎหมาย เมื่อได้รับคำร้องขอใช้สิทธิ สถาบันฯจะทำการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ในกรณีที่สถาบันฯเห็นว่าไม่สามารถดำเนินการตามคำขอได้ สถาบันฯจะทำการติดต่อกลับโดยไม่ชักช้า