คลังชงครม.อนุมัติปรับหนี้สาธารณะเพิ่ม รับพิษเงินกู้อุ้มจำนำข้าว

ปี2013-02-26

naewna20130225กระทรวงการคลัง เสนอ ครม.ในสัปดาห์นี้ ขออนุมัติปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ ยอมรับหนี้จำนำข้าวเพิ่มอีก 5.3หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีมีการปรับลดเงินกู้กองทุนประกันภัยพิบัติลง ส่งผลให้หนี้ใหม่เพิ่มเพียง 2.7 หมื่นล้านบาท

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ ครั้งที่ 1 ให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณา เห็นชอบในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่มีทั้งในส่วนที่ปรับเพิ่มขึ้น และลดลง

ในส่วนหนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้น คือ ขอให้มีการกู้เงินอีก 7 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการจำนำพืชผลทางการเกษตร โดยเป็นการใช้เงินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ใช้เงินสภาพคล่องของธนาคารจำนำข้าวปี 2554/55 ไปก่อนจำนวน 5.3 หมื่นล้านบาท และส่วนที่เหลือ 1.7 หมื่นล้านบาท ธ.ก.ส. จะขอนำไปใช้รับจำนำพืชผลทางการเกษตรชนิดอื่นที่ไม่ใช่ข้าว รวมเป็น 7 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของการกู้เงินเพื่อใช้ในโครงการจำนำพืชผลทางการเกษตรทั้งหมด กระทรวงคลังได้มีการกำหนดไว้ไม่เกิน 4.1 แสนล้านบาท รวมกับการใช้สภาพคล่องของ ธ.ก.ส. อีก 9 หมื่นล้านบาท รวมเป็นวงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการหมุนเงินจำนวนนี้เพื่อการดูแลพืชผลทางการเกษตรทั้งหมดต่อไป

นอกจากนี้ จะเสนอครม.ในการปรับแผนเงินกู้ของ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ขอซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท ขณะที่การกู้เงินของกองทุนประกันภัยพิบัติ มีการขอปรับลดลงจากเดิมตั้งวงเงินไว้ 5 หมื่นล้านบาท ก็จะขอกู้เพียง 3,000 ล้านบาทเท่านั้น ทำให้เงินกู้ลดลงไป 4.7 หมื่นล้านบาท

นางสาวจุฬารัตน์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะครั้งใหม่นี้ จะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2556 ที่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ก่อนหน้านี้ วงเงิน 1.92 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นแผนก่อหนี้ใหม่รวม 9.59 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้การก่อหนี้ใหม่เพิ่มขึ้นจากแผนเดิมไม่มาก

“การประมาณการของ สบน. สัดส่วนหนี้ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ จีดีพียังอยู่ในกรอบไม่เกิน 50% ของจีดีพี แม้ว่าจะมีการกู้ตาม พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท ที่จะให้ ครม. เห็นชอบภายในไม่กี่สัปดาห์นี้” นางสาวจุฬารัตน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) โดย ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง ทีดีอาร์ไอ เตือนว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญอย่างมากในขณะนี้ คือ การบริหารหนี้สาธารณะ ต้องบริหารให้มีพื้นที่การคลังมากพอที่จะรองรับความจำเป็นในอนาคตและวิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลไม่ควรก่อหนี้เกินความจำเป็น โดยเฉพาะการก่อหนี้สาธารณะในโครงการพิเศษในช่วงปี 2556-2560 เช่น หนี้จากการขาดทุนจากโครงการรับจำนำ การใช้จ่ายเพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การใช้จ่ายเพื่อลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำท่วม และหนี้จากการลดลงของภาษีเงินได้นิติบุคคลตามนโยบายของรัฐบาล

พร้อมคาดการณ์ว่าตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป การขาดทุนจากโครงการจำนำข้าว จะขาดทุนปีละ 200,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลควรให้ความสำคัญในการวางมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดหนี้สาธารณะที่สูงเกิน


ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์แนวหน้า วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556 ในชื่อ คลังชงครม.อนุมัติปรับหนี้สาธารณะเพิ่ม รับพิษเงินกู้อุ้มจำนำข้าว