ทีดีอาร์ไอ เสนอจัดทดสอบมาตรฐานระดับชาติรูปแบบใหม่ใช้แทนโอเน็ต

ปี2013-03-20

ทีดีอาร์ไอ เสนอจัดทดสอบมาตรฐานระดับชาติรูปแบบใหม่ใช้แทนโอเน็ต พร้อมแนะให้ประเมินวิทยฐานะครูทุก 5 ปี เพื่อให้ครูเกิดความรับผิดชอบต่อผลการสอบของเด็ก รวมทั้งเสนอลดบทบาทประเมินภายนอกของ สมศ.ชี้ไม่เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง
ทีดีอาร์ไอ เสนอจัดทดสอบมาตรฐานระดับชาติรูปแบบใหม่ใช้แทนโอเน็ต พร้อมแนะให้ประเมินวิทยฐานะครูทุก 5 ปี เพื่อให้ครูเกิดความรับผิดชอบต่อผลการสอบของเด็ก รวมทั้งเสนอลดบทบาทประเมินภายนอกของ สมศ.ชี้ไม่เกิดผลลัพธ์ที่แท้จริง

วันนี้ (20 มี.ค.) ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ทีดีอาร์ไอได้สรุปผลโครงการจัดทำยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดความรับผิดชอบ ซึ่งสนับสนุนการจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) โดยกำหนดหัวใจการปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาด้านการศึกษาในปัจจุบัน ได้แก่ 1.สร้างระบบการศึกษาที่มีความรับผิดชอบในทุกระดับ โดยเฉพาะระดับกระทรวง ผู้บริหารและครูที่จะต้องมีส่วนร่วมกับผลคะแนนที่ตกต่ำของเด็ก 2.ต้องปฏิรูปหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และ3.ปรับวิธีการจัดสรรงบประมาณด้านการศึกษา เพราะงบประมาณด้านการศึกษาของไทยมีจำนวนมากแต่บริหารจัดการไม่ถูกต้องทำให้ไม่เกิดประโยชน์ พร้อมกันนี้ได้จัดทำข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมเพื่อการปฏิรูปให้เกิดพัฒนาการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยเสนอให้มีการปฏิรูประบบการทดสอบมาตรฐาน เป็นการสอบรูปแบบใหม่เรียกว่า ลิเทอเรซี เบส เทสต์ (Literacy-based test) ให้เป็นการสอบระดับประเทศ ใช้แทนการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต โดยผลการสอบดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการประเมินผลงานครู ผู้บริหาร และสถานศึกษาเป็นหลัก ส่วนการประเมินเพื่อวัดความรู้นักเรียนให้เน้นการสอบวัดความรู้ระดับโรงเรียน และการประเมินผลจากแฟ้มผลงานหรือโครงงานของนักเรียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดผลว่านักเรียนมีความรู้ในเรื่องที่เรียนมากน้อยเพียงใด

ดร.สมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ทีมวิจัยทีดีอาร์ไอยังเสนอให้ปรับระบบการประเมินรายได้และวิทยฐานะครู โดยการปรับขั้นเงินเดือนให้ขึ้นกับพัฒนาการของผลการสอบมาตรฐานของนักเรียน จากเดิมที่การพัฒนาการสอบของเด็กมีผลต่อการขึ้นเงินเดือนครู คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 3 ซึ่งน้อยเกินไป ทีมวิจัยจึงเสนอว่าสัดส่วนดังกล่าวควรมีน้ำหนักอย่างน้อยเป็นครึ่งหนึ่งขององค์ประกอบในการพิจารณาขึ้นเงินเดือน พร้อมกันนี้ได้เสนอเพิ่มการประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ โดยอาจเกิดขึ้นเป็นช่วงๆ ทุก 5 ปี และให้ครูมีความรับผิดชอบในการพัฒนาเพื่อนครู พัฒนาการสอน และพัฒนาการของผลการสอบนักเรียน ส่วนการพัฒนาระบบการประเมินผลสถานศึกษา เสนอให้ยกเลิกการประเมินภายนอกที่จัดทำโดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) เพราะเห็นว่าไม่ได้ให้ข้อมูลที่แท้จริง เนื่องจากสถานศึกษาเข้าใจหลักการประเมินก็จะจัดทำเอกสารตามความต้องการผู้ประเมิน แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่การเรียนการสอนจริง นอกจากนี้คำแนะนำที่ได้จากการประเมินภายนอกก็เป็นเพียงคำแนะนำกว้างๆ ดังนั้นจึงเสนอให้ สมศ.ทำหน้าที่เปลี่ยนจากการประเมินภายนอก ให้เข้าไปตรวจสอบเฉพาะโรงเรียนกลุ่มเสี่ยง เช่น โรงเรียนที่มีผลการเรียนแย่ลง หรือกรณีโรงเรียนมีการนำเทคโนโลยีใหม่เข้าไปใช้ สมศ.ก็ควรไปศึกษาว่าได้ผลดีจริงหรือไม่ เป็นต้น ทั้งนี้ให้ใช้การประเมินภายในเป็นหัวใจหลักของการประเมินสถานศึกษา

“นอกจากนี้เรายังเสนอการปรับระบบการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างความรับผิดชอบและลดความเหลื่อมล้ำเป็นหลัก โดยที่ผ่านมามีหลักฐานชัดเจนว่าผลการเรียนของเด็กจะขึ้นอยู่กับเศรษฐานะของครอบครัว ส่วนใหญ่ถ้ามาจากครอบครัวที่มีฐานะก็จะมีผลการเรียนดี ดังนั้นจึงเสนอให้รัฐบาลสำรวจและอุดหนุนงบฯ ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ยากจนมากขึ้นเพื่อให้เกิดความทัดเทียมกัน จากนั้นหากจุดตั้งต้นเท่ากันแล้วผลการเรียนยังไม่เท่ากัน ก็ต้องให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบ” ดร.สมเกียรติ กล่าว

ดร.ภูมิศรันย์ ทองเลี่ยมนาค นักวิจัยโครงการจัดทำยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดความรับผิดชอบ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ทีมวิจัยเสนอรูปแบบการทดสอบมาตรฐานซึ่งเป็นการสอบโดยประยุกต์เนื้อหาหลากหลายวิชา และเน้นทักษะการนำไปใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ต่างจากการสอบรูปแบบเดิมๆ ที่เน้นการท่องจำและทำตามบทเรียนแบบตายตัว เช่น ข้อสอบแสดงแผนที่ทวีปหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จากนั้นให้นักเรียนทดลองคำนวนหาพื้นที่ทวีปหรือประเทศนั้น โดยไม่ได้ให้อุปกรณ์ใดๆ ดังนั้นนักเรียนจะได้ใช้ทักษะในการคำนวนรูปทรงที่แตกต่างกันและมีคำตอบที่ไม่เหมือนกัน แต่นักเรียนต้องสามารถอธิบายว่าแต่ละคนใช้วิธีการใด

“ทั้งนี้หน่วยงานที่ออกข้อสอบจะต้องปรับคุณภาพการออกข้อสอบด้วย โดยเฉพาะผู้อออกข้อสอบต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยตรงมากขึ้น หรือมีการระดมความคิดจากครูหรือผู้เชี่ยวชาญในหลักสูตรนั้นๆ นอกจากนี้จะต้องสนับสนุนการจัดทำธนาคารข้อสอบ เพื่อให้มีข้อสอบดีๆ เก็บไว้เยอะๆ สามารถนำมาใช้ได้ทันที ทั้งนี้การปฏิรูปตัวข้อสอบ ปฏิรูประบบข้อมูลการจัดทำข้อสอบ และปฏิรูปการรายงานผลการสอบ จะมีความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพการสอบและคุณภาพสถานศึกษาได้” ดร.ภูมิศรันย์ กล่าว.


ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์เดลินิวส์ วันที่ 20 มีนาคม 2556 ในชื่อ ทีดีอาร์ไอ เสนอจัดทดสอบมาตรฐานระดับชาติรูปแบบใหม่ใช้แทนโอเน็ต