TDRI ชี้รัฐอมข้าวนานยิ่งขาดทุนหนัก

ปี2013-10-16

ตลาดค้าข้าวชะงัก หลังไทยขึ้นราคาจำนำ

ทีดีอาร์ไอ เผยหากรัฐบาลขายข้าวหมดสต๊อกจะขาดทุนทางบัญชีทันที 2.8 แสนล้านบาท หากเก็บไว้และมีระยะเวลาขายนาน 5 ปีจะขาดทุนเพิ่มเป็น 4.05 แสนล้านบาท

นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า หากรัฐบาลขายข้าวหมดสต๊อกจะขาดทุนทางบัญชีทันที 2.8 แสนล้านบาท หากเก็บไว้และมีระยะเวลาขายนาน 5 ปีจะขาดทุนเพิ่มเป็น 4.05 แสนล้านบาท หากเก็บไว้นาน 10 ปี ยอดขาดทุนจะเพิ่มเป็น 5.27 แสนล้านบาท โดยเม็ดเงินที่สูญเสียไป 60% มาจาการซื้อข้าวชาวนา ส่วนที่เหลืออีก 40% เป็นการสูญเสียให้กับส่วนอื่นที่ไม่ใช่ชาวนา อาทิ การขายข้าวราคาถูกให้พรรคพวกของการเมือง ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา

ทั้งนี้ผลเสียหายจากการรับจำนำเกิดขึ้นใน 4 ด้านหลัก คือ

1.ในช่วง 18 เดือนนับจากเดือนต.ค.2554- ส.ค. 2556 ได้ทำลายความสามารถในการส่งออก คิดเป็นมูลค่า 7.58 หมื่นล้านบาท

2.ทำลายคุณภาพข้าวไทยที่สั่งสมมานานกว่า 100 ปี

3.ก่อให้เกิดกระบวนการแย่งชิงกำไรส่วนเกิน หรือค่าเก๋าเจี๋ย อาทิ การปรับขึ้นราคาวัสดุทางการเกษตร การขยายกำลังการผลิตของโรงสี การตั้งโกดังกลางของนักการเมืองในท้องถิ่น เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์และกำไรจากการดำเนินโครงการ

4.ทำลายระบบการค้าข้าวที่มีการแข่งขัน เพราะมีบริษัทที่เป็นพรรคพวกของนักการเมืองไม่กี่รายที่ยื่นเงื่อนไขเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการซื้อข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ทั้งที่บริษัทนั้น ไม่มีความสามารถในการส่งออก และมีการอ้างว่าขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ไปถึง 1.76 ล้านตัน ไปยัง 6 ประเทศ แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูล แท้จริงอาจเป็นเพียงข้ออ้างในการนำข้าวในสต๊อกของรัฐบาลออกไปขาย ตลอดจนมีกระบวนการที่ก่อให้เกิดการทุจริตมากขึ้น เพราะไม่มีความโปร่งใส ตรวจสอบการทำงานไม่ได้ อาทิ การขายข้าวนึ่งของรัฐบาล การทำข้าวถุงลดค่าครองชีพ เป็นต้น

“โครงการจำนำข้าวมีช่องที่น่าสงสัยในการทุจริต 8 จุดใหญ่ เช่น ข้าวหายจากบัญชี 2.9 ล้านตัน, รัฐยืนยันการส่งออกแบบจีทูจีให้ 6 ประเทศ 1.76 ล้านตัน ตรวจสอบแล้วไม่มีจริง เป็นต้น แต่มองว่าพรรคเพื่อไทยคงไม่ยกเลิกโครงการนี้แน่นอน เพราะเป็นแบรนด์ของพรรคไปแล้ว ซึ่งทีดีอาร์ไอห่วงว่าเศรษฐกิจไทยจะล้มก่อน”

นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายกกิตติมศักด์สมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องยุบสภาแล้วจัดการเลือกตั้งใหม่ เพื่อที่จะยกเลิกโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศอย่างหนัก เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถยกเลิกในขณะนี้ ไม่เช่นนั้นจะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐบาลได้แถลงนโยบายดังกล่าวต่อรัฐสภาไปแล้ว ดังนั้นมีทางเดียวที่รัฐบาลจะลงได้คือการยุบสภา

สำหรับความเดือดร้อนของโรงสีในบางส่วน พบว่าโรงสีที่จะเข้าร่วมโครงการในครั้งแรกหลายรายก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายแก่พวกพ้องนักการเมืองในหลายๆขั้นตอน ส่วนโรงสีและโกดังบางรายที่ต้องการข้าวเปลือกเข้าโครงการเยอะๆก็อาจมีการจ่ายเงินผู้เกี่ยวข้อง เพราะหากมีปริมาณข้าวเข้าโกดังเยอะ ก็จะได้ค่าบริหารจัดการเยอะตามไปด้วย


ตีพิมพ์ครั้งแรก: เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 16 ตุลาคม 2556 ในชื่อ TDRIชี้รัฐอมข้าวนานยิ่งขาดทุนหนัก