มูดี้ส์-ธนาคารโลก-ทีดีอาร์ไอฟันธง จีดีพีปีนี้โตไม่ถึง 3%

ปี2014-04-29

หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมาประเมินว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยมีโอกาสที่โตต่ำกว่า 2.7% ตามที่เคยคาดไว้ ปรากฏว่าล่าสุด บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ธนาคารโลก และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ประเมินใกล้เคียงกันว่า ปีนี้จีดีพีไทยมีโอกาสจะโตต่ำกว่า 3%

ทั้งนี้ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ระบุในบทวิเคราะห์เกี่ยวกับประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ว่าอัตราการเติบโตของจีดีพีไทยในปี 2557 และ 2558 น่าจะชะลอตัวต่ำกว่า 3% ซึ่งต่ำกว่า 3.8% ที่เป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เป็นผลจากการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลที่ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนต.ค. 2556 กำลังส่งผลกระทบเชิงลบต่อแนวโน้มการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2557 และ 2558 ซึ่งหากยังคงดำเนินต่อไป อาจบั่นทอนจุดแข็งหลักของความน่าเชื่อถือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเจริญเติบโตในปี 2557-2558 จะได้รับผลกระทบเชิงลบจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่ล่าช้าออกไป และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าการจัดการเลือกตั้งรอบใหม่จะเกิดขึ้นเมื่อใด มูดี้ส์เห็นว่าการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ยังไม่ถึงจุดที่จะส่งผลให้มีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงอย่างฉับพลัน แม้ว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะมีผลกระทบเชิงลบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน รายงานของมูดี้ส์ระบุว่า ยังไม่มีแนวโน้มจะปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย พัฒนาการใดๆ ที่สนับสนุนความแข็งแกร่งในภาคการคลัง ซึ่งรวมถึงการลดลงของการขาดดุลงบประมาณและการใช้จ่ายนอกงบประมาณ รวมทั้งการจำกัดภาระผูกพันทางการคลังที่เกี่ยวข้องกับมาตรการประชานิยม จะเป็นปัจจัยบวกต่อความน่าเชื่อถือ อีกทั้งการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นของบรรยากาศทางการเมืองและธรรมาภิบาลของภาครัฐที่ช่วยสนับสนุนเสถียรภาพในระยะยาว และประสิทธิภาพของรัฐบาล เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนต่อความน่าเชื่อถือเช่นกัน

ด้าน กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสธนาคารโลกสำนักงานประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกยังประเมินว่าจีดีพีไทยปีนี้จะเติบโต 3% ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ 4% ภายใต้สมมติฐานว่า จะมีการจัดตั้งรัฐบาลในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยสาเหตุสำคัญที่ปรับลดจีพีดีลง 1% เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถจ่ายเงินจำนำข้าวให้กับชาวนาได้ประมาณ1.3 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกจะขอดูตัวเลขเศรษฐกิจอีก 1-2 ไตรมาส และจะทบทวนว่าจะปรับลดจีดีพีหรือไม่ โดยหากภายในปีนี้ไทยไม่สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็มีโอกาสที่จีดีพีจะโตต่ำกว่า 3%เพราะไม่สามารถที่จะจัดทำงบประมาณปี 2558 ได้ซึ่งจะกระทบกับความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า คาดว่าปีนี้จีดีพีอาจจะเติบโตไม่ถึง 3% เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ รวมทั้งการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 เริ่มมีปัญหา และยังไม่สามารถที่จะจัดทำงบประมาณปี 2558 ทำให้มีเพียงแต่ภาคการส่งออกเท่านั้นที่ประคับประคองเศรษฐกิจอยู่ในขณะนี้


ตีพิมพ์ครั้งแรก: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ วันที่ 29 เมษายน 2557