Policy Hackathon ออกแบบตลาดทุน เปลี่ยนนักออมรุ่นเยาว์ สู่นักลงทุนรุ่น Young

หน่วยงานTDRI x CMDF x FETCO
วันที่2024-02-17
สถานที่Pathumwan Princess Hotel

TDRI จับมือ CMDF – FETCO – ก.ล.ต. เฟ้นหานักออกแบบนโยบาย ลดอุปสรรคตลาดทุน หนุนเยาวชน-คนรุ่นใหม่ให้เป็นนักลงทุน ชิงเงินรางวัลสูงสุด 3 หมื่นบาท เปิดรับสมัครแล้ววันนี้

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI)  ร่วมกับ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จัดกิจกรรม “Policy Hackathon ออกแบบตลาดทุน…เปลี่ยนนักออมรุ่นเยาว์สู่ Young Investor” ในวันที่ 17 – 18 ก.พ. 2567 เพื่อตามหาทีมนักคิด ไม่จำกัดอายุ อาชีพ ร่วมออกแบบนโยบายส่งเสริมนักลงทุนรุ่นเยาว์ ชิงรางวัลสูงสุด 3 หมื่นบาท     

ดร. กิรติพงศ์ แนวมาลี   หัวหน้าทีมการปฏิรูปกฎหมาย ทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า ในอนาคตอันใกล้ที่สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ การออมในแบบปัจจุบันอาจไม่ได้เป็นหลักประกันได้ว่าจะมีเงินออมพอใช้ในช่วงชีวิตวัยเกษียณ ดังนั้นโจทย์สำคัญจะทำอย่างไรให้มีเงินเพียงพอในบั้นปลายชีวิต  ซึ่งตลาดทุนเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยให้วัยรุ่นในปัจจุบันได้เงินจากผลตอบแทนไปเสริมเงินออมอื่นๆ

“เป็นที่น่ายินดีว่าตลาดทุนในปัจจุบันเข้าถึงได้มากขึ้น ทั้งการให้ความรู้ด้านการเงินและการลงทุนและออกผลิตภัณฑ์การเงินเสี่ยงต่ำให้วัยรุ่นได้เริ่มลงทุน แต่ก็ยังมีประเด็นชวนให้คบคิดต่อว่าตลาดทุนแบบไหนที่จะตรงใจและตอบโจทย์กลุ่มวัยรุ่น ตัวอย่างที่พบในปัจจุบันยังมีข้อกำหนดที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของวัยรุ่นในตลาดทุน เช่น คนที่อายุไม่เกิน 20 ปีไม่สามารถเปิดบัญชีหลักทรัพย์หรือลงทุนในตลาดทุนได้เอง  แต่ต้องให้ผู้ปกครองแสดงความยินยอมก่อน  แต่ในต่างประเทศผู้ที่อายุครบ 18 ปีทำได้  นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งความท้าทายคือรัฐจะออกแบบนโยบายอย่างไรให้วัยรุ่นได้มีโอกาสหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นมากกว่าเงินฝากและพันธบัตรรัฐบาลแต่ไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงสูงมากเกินไป” ดร.กิรติพงศ์ ระบุ

ทีดีอาร์ไอ และภาคีตลาดทุนจึงขอเชิญชวนผู้มีไอเดียมาร่วมกิจกรรม “Policy Hackathon ออกแบบตลาดทุน…เปลี่ยนนักออมรุ่นเยาว์สู่ Young Investor”  โดยสมัครเป็นทีม ๆ ละ 2-5 คน  ไม่จำกัดอายุและอาชีพ กิจกรรมดังกล่าวนอกจากทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะมีสิทธิชิงเงินรางวัลแล้ว ยังจะได้รับประกาศนียบัตรพร้อมฟังบรรยายและคำแนะนำจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการเงิน ตลาดทุน เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม และ Design Thinking ของประเทศไทย  รวมทั้งพบปะและสร้างเครือข่ายกับผู้สนใจด้านการลงทุน ตลาดทุน    

ประกาศผลทีมผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขัน

1. TIFF สมาชิกประกอบด้วย คุณชานน ลิมป์ประสิทธิพร คุณธนัชญา ปิยวรไพบูลย์

2. เมกกะสั่งลุย สมาชิกประกอบด้วย คุณกิจกร สมิตัย คุณศิริวิภา พรหมห้อง คุณณัฐนันท์ บุญยวง คุณสรียา รัตน์นิยมชัย คุณพลกฤต นิติประพุทธ

3. กระทิง สมาชิกประกอบด้วย คุณณัฐภูมิ ประพฤติธรรม คุณกร พึ่งแตง คุณธนวัฒน์ แกล้วกล้า

4. ม้าโพนี่ทะเล สมาชิกประกอบด้วย คุณเปรมิกา กมลวรานุรักษ์ คุณธีร์ธวัช เกียรติวีรภัทร คุณธีรดนย์ ปรรคลักษ์ คุณพิชามญช์ กุลตังวัฒนา

5. Yong Investor สมาชิกประกอบด้วย คุณศุภรดา นิทรัพย์ คุณนายภูมิพัฒน์ ซิมธวัธชัย คุณสิทธวีร์ นิธิวุฒิรัฐสกุล คุณรุตุจา รามราว ชางเล่ คุณนัยสันต์ ธามปภา

6. Thaludoy สมาชิกประกอบด้วย คุณณธัชพงศ์ บุรงค์ คุณเอวารินทร์ รัตนปริยานุช คุณวิวรรธน์ คูณดี คุณธนวรรธน์ เกษมบุญชัย คุณภูมิภูรี เลาห์ขจร

7. Jittstor สมาชิกประกอบด้วย คุณจุฑามาศ พิมพา คุณมนสิชา หุ่นสุวรรณ คุณแววปราชญ์ สุธิราวุธ คุณกันยารัตน์ สุวรรณสุข คุณภัทร เตกิตติพงษ์

ทีมชนะเลิศ เสนอตั้ง “กองทุนเพื่ออนาคต” เปิดทางอายุ12 เริ่มต้นลงทุนได้ ให้รัฐสมทบเพิ่ม-ผู้ปกครองใช้ลดหย่อนภาษี

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ทั้ง 7 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรม โดยทำกิจกรรมฟังบรรยายรวมถึงคำแนะนำจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ จากนั้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ทีมผู้เข้าแข่งขันได้นำเสนอแนวคิดให้คณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย  ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย, นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย รองประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยและนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย, ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร SET, นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. และดร.กิรติพงศ์ แนวมาลี หัวหน้าทีมการปฏิรูปกฎหมาย นักวิซาการอาวุโส ทีดีอาร์ไอ เป็นผู้ตัดสิน

ผลปรากฎว่ามีทีมที่ได้รับรางวัล 4 ทีมจากผู้ส่งผลงานร่วมเข้าแข่งขัน 78 ทีมโดยรางวัลชนะเลิศเป็นของทีม TIFF ซึ่งนำเสนอกองทุนเพื่ออนาคตของเยาวชน (TeenInvest future fund : TIFF) โดยขยายสิทธิการลงทุนให้กับเยาวชนอายุ 12-20 ปีจากเดิมที่ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยรัฐต้องสร้างแรงจูงใจให้เยาวชนลงทุนในกองทุนนี้ด้วยการสบทบเงินเข้ากองทุน 50 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่เกินปีละ1,800 บาท นอกจากนี้ผู้ปกครองสามารถนำการลงทุนของเยาวชนไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย ขณะเดียวกันจะมีการให้ความรู้กับนักลงทุนรุ่นเยาว์ผ่านเกมในรูปแบบต่างๆ เช่น ให้เงินสมทบเพื่อจูงใจให้นักลงทุนรุ่นเยาว์ที่อ่านบทความ หรือเข้าคอร์สอบรมความรู้เรื่องการลงทุน โดยรัฐสมทบเงินพิเศษเข้ากองทุนปีละไม่เกิน 500 บาทต่อคน

นายชานนท์ ลิมป์ประสิทธิพร และน.ส.ธนัชญา ปิยวรไพบูลย์ ทีม TIFF ที่ได้รางวัลชนะเลิศ ระบุว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ โดยได้เตรียมความพร้อมในโปรเจคนี้มาก่อน 2 สัปดาห์ และเมื่อได้มาเจอผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆที่มาร่วมให้คำแนะนำได้มีการปรับแก้บางส่วนก่อนที่จะนำมาสู่ข้อเสนอที่ได้เสนอต่อกรรมการ ทั้งนี้พื้นฐานการออกแบบผลิตภัณฑ์นี้มาจากการที่เห็นปัญหาของนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนอายุ 12- 20 ปี ที่มีข้อจำกัด ทั้งในเงินทุนและมีความรู้เกี่ยวกับตลาดทุนที่น้อย จึงต้องการทลายข้อจำกัดดังกล่าว อย่างไรก็ตามเห็นว่าข้อเสนอของทีมอื่นๆนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นข้อเสนอที่ดี บางข้อเสนอเป็นมุมมองที่คิดไม่ถึงมากก่อน ซึ่งหากหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องนำไปพัฒนาต่อก็จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กรุ่นใหม่ในอนาคต

ทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ ยังได้แนะนำเยาวชนที่มีความสนใจในการลงทุนในตลาดทุนด้วยว่า ควรศึกษาหาความรู้จากบทความที่เกี่ยวกับตลาดทุนไปก่อน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม เมื่อถึงเวลาที่สามารถลงทุนได้ จะได้เริ่มลงมือทันที เพราะหากเริ่มต้นช้าไป ก็จะมีค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้จากการลงทุน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญในการลงทุน คือ ความเสี่ยง ดังนั้นก่อนที่จะลงทุนทุกครั้งจะต้องเข้าใจก่อนว่าเงินที่นำไปลงทุนเป็นการลงทุนในส่วนไหน คาดหวังอะไร และถ้าไม่ได้ตามที่หวัง ความเสี่ยงที่จะเจอมีอะไรบ้าง  ไม่ใช่ลงทุนตามที่กูรูบอกมา

ชงรัฐ สนับสนุนให้ทุกคนเข้าตลาดทุนตั้งแต่เกิด

ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศเป็นของทีม JITTSTOR ที่เสนอโครงการ “เกิดมาลงทุน” สนับสนุนให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนในตลาดทุนได้ตั้งแต่เกิด โดยรัฐมอบเครื่องมือการบริหารจัดการเงินอย่างอัตโนมัติ ซึ่งเป็นวอลเล็ต ที่เชื่อมต่อกับบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ให้เด็กทุกคน พร้อมบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยระบบ Smart License

ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง มีผู้รับรางวัลร่วม 2 ทีม คือ ทีมเมกกะสั่งลุย นำเสนอกองทุนความเสี่ยงต่ำไม่ปันผล สำหรับผู้ที่อายุ12-20 ปี สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 1 บาท และซื้อได้ไม่เกิน 2,000 บาทต่อเดือน รัฐสมทบทุนให้ 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อครบอายุ 20  ไม่สามารถเพิ่มเงินลงทุนต่อได้ แต่สามารถขายกองทุนนี้ภายในอายุ 25 ปี

ส่วนอีกทีมที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง คือ ทีมม้าโพนี่ทะเล นำเสนอ ฟีเจอร์ในแอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ ภายใต้แนวคิด ปัดเศษทุกยอดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้เป็นเงินลงทุน ซึ่งจะต้องผูกกับบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต-เดบิต บัตรสมาร์ทคาร์ดภายในโรงเรียน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนอายุ 15-20 ปี พร้อมกับเสนอให้มีการแนะแนวความรู้เรื่องการลงทุนผ่านการปรับหลักสูตรการศึกษา 

ทั้งนี้กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการกิโยตินกฎระเบียบตลาดทุน” โดย ทีดีอาร์ไอ และ กองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF)

รับชมย้อนหลัง : การนำเสนอ https://www.youtube.com/watch?v=-vqEQDK4RX0

รับชมย้อนหลัง : ประกาศผล https://www.youtube.com/watch?v=5seKr-h5OGo

ข่าว : https://tdri.or.th/2024/02/policy-hackathon-young-investor/