ทำอย่างไร ให้รถเมล์ไทยดีกว่าเดิม
ระบบขนส่งสาธารณะเป็นรูปแบบการเดินทางที่สะดวก และจำเป็น ในเมืองที่มีประชากรคนเมืองหนาแน่น
เพราะสามารถรองรับผู้โดยสารได้จำนวนมาก จึงช่วยลดปัญหาการจราจร ปัญหาสิ่งแวดล้อม
แต่สำหรับประเทศไทย ระบบขนส่งสาธารณะที่มีมายาวนาน อย่างรถเมล์
กลับยังไม่ใช่ทางเลือกการเดินทางที่ได้รับความนิยมสำหรับคนเมือง
Policy Popup ชวนดูสาเหตุที่ทำให้รถเมล์ไทยยังไม่ใช่ตัวเลือกหลักการเดินทางของคนกรุง
และติดตามการปฏิรูปในปี 2562 ว่าจะช่วยเข้ามาตอบโจทย์แก้ปัญหารถเมล์ไทยอย่างไรบ้าง
ข้อเสนอจาก การศึกษาพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ปี 2562
รถเมล์ไทย ใครให้บริการ
รถเมล์ที่ “รัฐ” เป็นเจ้าของ
รถเมล์สีครีมแดง / รถปรับอากาศสีส้ม
เดินรถโดย องค์การขนส่งมวลชน หรือ ขสมก
รถเมล์ บริษัทเอกชน
รถเมล์มินิบัสหลากสี / รถปรับอากาศสีน้ำเงิน
เดินรถโดย บริษัทเอกชน ที่มีกว่า 100 บริษัท มีทั้งบริษัทที่ให้ ขสมก. เช่ารถ และบริษัทที่ทำกิจการเอง คือมีคนขับและกระเป๋ารถเมล์ในอู่ตนเอง
รถเมล์เก่า
รถซิ่ง รอนาน
ตัวอย่าง สาย 8 แฮปปี้แลนด์ – สะพานพุทธ ในตำนาน
ทำไมต้องซิ่ง
ขสมก. มีจำนวนรถไม่พอ
รถเมล์สาย 8 เริ่มต้นให้บริการด้วยรถสีขาวครีมโดย ขสมก. ในปี 2519 แต่เนื่องจากมีผู้ใช้บริการในเส้นทางนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนรถไม่พอกับผู้โดยสาร ขสมก. จึงต้องเปิดให้เอกชนมาร่วมบริการ
เปิดให้ "ใบอนุญาต" เดินรถร่วมบริการ
4 บริษัทเอกชนผู้ให้บริการรถเมล์ จึงเริ่มเดินรถในเส้นทางสาย 8 ร่วมกัน ทั้งรถเมล์ร้อน รถปรับอากาศเอกชน
รถเมล์แข่งกันทำยอด
การมีรถเมล์หลายบริษัทในหนึ่งสาย แต่ไม่มีการแบ่งระยะเวลา ข้อกำหนดในการเดินรถ จึงทำให้ต้องแข่งขันกันเอง แย่งรับผู้โดยสาร เพื่อทำยอดตั๋ว
ระบบใบอนุญาต
หนึ่งปัญหาของรถเมล์
ให้หนึ่งเส้นกับหลายบริษัท
ให้โดยไม่ต้องแข่งขัน
ให้โดยไม่กำหนดเงื่อนไขการบริการ
ระบบการให้ใบอนุญาตอย่างไม่เป็นระบบ และไม่มีข้อกำหนดให้แต่ละบริษัทวางแผนเดินรถร่วมกัน ทำให้สายนั้นไม่มีตารางเดินรถที่ชัดเจน เกิดปัญหาการขับขี่แข่งกัน และอีกหลายปัญหาที่ผู้ใช้บริการต้องเจอ
รถเมล์สายอื่น มีปัญหาคล้ายกัน
บางสายเจอปัญหารอนาน เพราะไม่มีกำหนดมาตรฐานจำนวนรถขั้นต่ำในหนึ่งเส้น บางสายเจอปัญหารถเมล์มีหลายบริษัทขับขี่แข่งกัน เพราะรถเมล์ไทยที่ผ่านมา ยังไม่มีการจัดการระบบเส้นทาง
บริการอื่นตอบโจทย์กว่า
อีกไม่นานเส้นทางรถเมล์ 70% จะทับซ้อนกับรถไฟฟ้า
ที่กำลังจะเกิดขึ้นทั่วเมือง
ผู้โดยสารรถเมล์ลด รถส่วนตัวกลับเพิ่ม
ที่มา: รวบรวมจากรายงานประจำปี 2560 ของสำนักการจราจารและขนส่ง กทม. โดยทีดีอาร์ไอ (2562)
รถเมล์ไทยไปต่อได้
แค่ปรับรับเมืองเปลี่ยน
จัดระเบียบการให้บริการ
เปลี่ยนบทบาท
ขสมก.ที่อดีตเคยเป็นผู้ให้ใบอนุญาตกับเอกชน ควรเปลี่ยนเป็นผู้เดินรถเทียบเท่ากันกับเอกชน และกรมการขนส่งทางบกจะเข้ามาเป็นผู้กำหนดมาตราฐานกำกับดูแลรถเมล์
เปลี่ยนเจ้าของเส้นทางในหนึ่งสาย ให้เหลือน้อยราย
ในเส้นทางเดินรถเมล์หนึ่งสายควรมีบริษัทเอกชนน้อยราย เพื่อลดการขับขี่แข่งกันแย่งผู้โดยสาร และผู้ประกอบการสามารถสร้างระบบตารางเวลาภายในสายเพื่อตอบสนองต่อจำนวนผู้โดยสารในเส้นทางได้
ผู้ใช้ให้เป็นหัวใจของการพัฒนา
ปรับปรุงระบบ KPI ให้คะแนนรถเมล์
ยกระดับการให้บริการของรถเมล์ โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการทุกรายต้องปรับการบริการ และรายงานเพื่อต่อใบอนุญาต โดยหากคะแนนแย่กว่าเกณฑ์ ต้องยื่นคำขอใหม่และอาจโดนลงโทษ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการปรับปรุงการให้บริการแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่น
บริการที่น่าเชื่อถือ 30 คะแนน
ตรงเส้นทาง ครบเที่ยว ตรงเวลา
คุณภาพการบริการ 30 คะแนน
ให้คะแนนจากความพอใจผู้ใช้
บริการที่น่าเชื่อถือ 30 คะแนน
ตรงเส้นทาง ครบเที่ยว ตรงเวลา
ปฎิรูปเส้นทางเดินรถ
ปรับปรุงเส้นทางด้วยโครงสร้างเดิม ประมาณ 70% เป็นเส้นทางเก่า เพื่อลดการทับซ้อนของเส้นทาง ลดความยาวเส้นทางที่ไม่จำเป็น
รวมไปถึงการปรับโซนการเดินรถ และเสนอหลักคิดในการพัฒนาเรียงเลขระบบสายรถเมล์ โดยกรมการขนส่งทางบก TDRI ร่วมกับ Mayday เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่านการโหวต และแสดงความเห็นผ่านทางเว็บไซต์ จนได้มาเป็น 9 โซนเดินรถ และหลักคิดระบบเรียงสายรถเมล์ ซึ่งได้เสนอแนวทางการประชาสัมพันธ์สื่อสารก่อนการทดลองใช้อีกด้วย
ปรับปรุงโครงข่ายเส้นทางให้ครอบคลุม
เพิ่มขึ้น + 52.22%
โครงข่ายเดิม 2582.23 ตร.กม
โครงข่ายใหม่ 3,933.49 ตร.กม
9 โซนเดินรถ
ข้อเสนอครั้งนี้ มีปักหมุดโซนการเดินรถใหม่ จากเดิมที่โซนการเดินรถไม่ครอบคลุม มีการวิ่งรถทับเส้นทางกัน
โซนเดินรถใหม่มีลักษณะเป็นก้นหอย โดยวนจากเมืองชั้นในสุดออกมานอกสุด คำนึงถึงการแบ่งส่วนการปกครองแต่ละเขตในพื้นที่ กทม.
การเรียงเลขระบบสายรถเมล์ ระบบเดิม
ที่ผ่านมา ระบบเลขสายรถโดยสารประจำทางในไทยได้มาจากการเรียงลำดับ
ตามเส้นทางที่ให้ใบอนุญาต “เส้นทางที่มาก่อน ได้ลำดับเลขก่อน” ไม่สามารถบอกได้ว่ารถเมล์ในแต่ละเลขสายไปที่ใดบ้าง ยากต่อการพัฒนา เมื่อมีการปฏิรูปรถโดยสารประจำทาง
หลักคิดในการพัฒนาเรียงเลขระบบสายรถเมล์ในอนาคต
การวางระบบเลขสายใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดระบบการเดินรถในอนาคต ที่จะต้องมีการปรับอย่างสม่ำเสมอจากการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้า หรือระบบขนส่งมวลชนอื่นที่มาทดแทน
ในปี 2562 จึงเสนอการทดลองเลขสาย 25 สาย ตาม “แนวทางกำหนดเลขสายตามโซน” คือ
หลักที่ 1 คือ โซนการเดินรถต้นทาง
หลักที่ 2 และ 3 คือ รันเลขรถในโซน
ป้ายหน้าของรถเมล์ไทย
ต่อจิ๊กซอว์ภาพใหญ่ระบบเดินทางคนเมือง ให้รถเมล์ เป็นส่วนหนึ่งของระบบขนส่งสาธารณะสำหรับทุกคน
โครงสร้างพื้นฐานที่ดี
คนมีส่วนร่วม
ระบบขนส่งสาธารณะของทุกคน
ระบบขนส่งสารธารณะสามารถรองรับผู้โดยสารต่อเที่ยวได้จำนวนมาก จึงใช้พื้นที่บนท้องถนนน้อยกว่าการขับขี่รถยนต์ การลดจำนวนรถยนต์บนท้องถนนและการมีรถเมล์จะช่วยแก้ปัญหาการจราจร และปัญหาสิ่งแวดล้อม มลพิษทางอากาศของเมือง ที่ส่วนหนึ่งมาจากไอเสียการเผาไหม้ของรถ