‘อัมมาร’ค้านปชช.ร่วมจ่ายบัตรทอง

ปี2015-04-07

เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายอัมมาร สยามวาลา ประธานกรรมการประสานการทำงาน 3 กองทุนสุขภาพ กล่าวถึงการศึกษาระบบสุขภาพของสำนักงานวิจัยเพื่อการพัฒนาหลักประกันสุขภาพไทย (สวปก.) ที่สรุปให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลว่าไม่เห็นด้วยที่ให้ประชาชนร่วมจ่าย สิ่งที่ทำได้คือรัฐต้องหาเงินเข้ามาเติมระบบ เนื่องจากตอนนี้จะเห็นว่าปัจจัยหลักที่ทำให้เงินในระบบสุขภาพทั้ง 3 กองทุนไม่พอนั้นมีอยู่ 2 สาเหตุ คือ 1.การที่ประเทศไทยเริ่มมีผู้สูงอายุมากขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสูงขึ้นร้อยละ 2-4 โดยเฉพาะข้าราชการเพิ่มมากขึ้น ส่วนประกันสังคมน้อยเนื่องจากอายุเกิน 60 ปีก็ต้องออกมาและอยู่ในสิทธิบัตรทองแทน 2.ค่าจ้างของบุคลากรที่มากถึงร้อยละ 5-6 โดยเฉพาะค่าตอบแทนเหมาจ่าย จะเห็นว่าตอนนี้อัตราเกือบเท่ากับเงินเดือนข้าราชการด้วยซ้ำไป ดังนั้นหลักการคือต้องพิจารณาปรับลดค่าใช้จ่ายเหล่านี้แทนการผลักภาระไปให้ประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม

นายอัมมารกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอเก็บภาษีเพิ่มนั้นค่อนข้างจะเห็นด้วย เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเก็บภาษีกันน้อยมากถ้าจะเพิ่มก็ควรจะเพิ่มอีกประมาณร้อยละ 3-4 ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าจะได้เงินเข้าระบบสุขภาพมาก แต่จะช่วยเพิ่มรายได้เพื่อพัฒนาประเทศโดยรวมด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่คณะกรรมการ 3 กองทุนกำลังดำเนินการกันอยู่นั้น ไม่ใช่การเสนอว่าต้องให้เงินเดือนเท่าไร ต้องเก็บเท่าไร แต่จะเน้นการเจรจา 3 กองทุน โดยให้มีผู้แทน 3 กองทุน ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และโรงเรียนแพทย์ เป็นต้น มาหารือเรื่องโครงสร้างงบประมาณของปีต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

“ทีดีอาร์ไอศึกษาพบว่าระยะหลังเงินเดือนครู หมอ และข้าราชการอื่นๆ ค่อนข้างสูงมากและสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีผลงาน โดยเฉพาะครู ผลงานการศึกษาของไทยต่ำกว่ามาตรฐานทุกปี เป็นตัวสะท้อนได้อย่างดีแถมยังไปก่อหนี้สินมากมาย ขอลดหนี้กันมากมาย ขณะที่สิทธิในการรักษาพยาบาลค่อนข้างมีเยอะกว่าสิทธิอื่นๆ เข้าได้ทุกโรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ระบบของข้าราชการเป็นระบบที่เอื้อให้เกิดการใช้จ่ายสิ้นเปลือง แต่บัตรทองค่อนข้างได้รับสิทธิอย่างจำกัด ดังนั้นข้าราชการควรมีส่วนในการร่วมจ่ายด้วยหรือไม่” นายอัมมารกล่าว

————————

หมายเหตุ: พิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 7 เมษายน 2558 ในชื่อ “’อัมมาร’ค้านปชช.ร่วมจ่ายบัตรทอง”